Page 43 - 23464_Full text
P. 43
42
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อธิบายว่าที่เสนอแก้ระบบเลือกตั้ง มิใช่
เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองใดหรือแม้แต่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เพื่อให้ประชาชนได้มี
เสรีภาพในการเลือก ส.ส. มากขึ้น ทั้งเลือกคนและเลือกพรรค
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ให้เหตุผลว่าระบบเลือกตั้งเป็นเรื่องส าคัญที่
จะท าให้การเมืองมีเสถียรภาพและเป็นประชาธิปไตย พรรคสนับสนุนการแก้ไขระบบเลือกตั้งเพราะหาก
ไม่เปลี่ยนกติกาตรงนี้ ท้ายที่สุดการเมืองจะกลับไปสู่วังวนเดิม และปัญหาความขัดแย้งก็จะมีมากยิ่งขึ้น
ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แกนน าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 ก็เพื่อจุดประสงค์ให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง พรรคใดชนะการ
เลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งก็ควรได้เป็นรัฐบาล
ด้านนายสุทิน คลังแสง ให้เหตุผลว่าที่ต้องแก้ระบบเลือกตั้งเพราะระบบเลือกตั้งตาม
รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นระบบเลือกตั้งที่เขียนมาเพื่อสืบทอดอ านาจและขาดความเป็นประชาธิปไตย
28
อย่างไรก็ตาม มีบางพรรคที่เสนอระบบเลือกตั้งที่แตกต่างออกไป คือ พรรคก้าวไกล ที่แม้จะ
สนับสนุนระบบเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ว่าเป็นระบบที่ดีกว่าระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่มีบัตรใบเดียว
แต่ทางพรรคเสนอให้ใช้ระบบบัตร 2 ใบที่ใช้วิธีคิดคะแนนแบบระบบเยอรมนีที่เรียกว่าระบบผสมแบบ
สัดส่วน (MMP- mixed-member proportional system) โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.
พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายให้เหตุผลว่า “ระบบเลือกตั้งเราไม่ควรมาเริ่มต้นคุยกันที่เทคนิค แต่
ให้พูดในหลักการใหญ่ๆ 3 ประการ คือ 1.ระบบการเลือกตั้งที่ดีจะต้องสะท้อนเสียงของประชาชนให้
มากที่สุด 2.ต้องสนับสนุนให้มีความเป็นธรรมของพรรคการเมืองทุกพรรค 3.สร้างความเข้มแข็งให้เป็น
สถาบันการเมืองในระยะยาว” โดยเขาเสนอว่า “โจทย์ของการเมืองไทยในวันนี้ไม่เหมือนปี 2540
ประเด็นรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพและการตรวจสอบถ่วงดุลยังส าคัญอยู่ แต่โจทย์ปัจจุบันและอนาคตมัน
ชัดเจนคือการต่อสู้กับอ านาจเก่า อ านาจใหม่ ความคิดเก่าความคิดใหม่ ท่ามกลางความสับสนในการ
เปลี่ยนผ่าน ดังนั้นระบบการเลือกตั้งจึงจ าเป็นต้องตอบโจทย์เอาอ านาจเก่าและอ านาจใหม่มาปะทะ
กันในสภา พรรคก้าวไกลจึงขอเสนอระบบการเลือกตั้งแบบ MMP เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ
เป็นบัตรแบบ 2 ใบ และไม่สามารถโกงค านวณได้” ทั้งนี้เขาเชื่อว่าระบบ MMP ท าให้เกิดความเป็น
29
ธรรมกับทุกพรรคและเสียงของประชาชนทุกเสียงได้รับการสะท้อนออกในสภา
ต่อมาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ให้กลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบรัฐธรรมนูญปี 2540
ผ่านวาระที่ 2 จากที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 25 ส.ค. 2564 โดยการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการพิจารณา
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เสียงข้างมากของกรรมาธิการมีมติ ไม่ก าหนดเกณฑ์ขั้นต่ าร้อยละ 5
ที่พรรคจะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเหมือนรัฐธรรมนูญ 2540 และไม่บังคับว่าพรรคการเมืองใดจะส่ง
28 ดูสรุปค าอภิปรายดังกล่าวใน “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ: จาก 13 ร่าง รัฐสภาโหวตผ่านร่างเดียว เรื่องแก้ระบบ
เลือกตั้ง ส.ส.,” บีบีซีไทย, 23 มิ.ย. 2021; “อภิปรายแก้ รธน. 13 ฉบับ ส่งท้าย ‘วาระแรก’ ต้านรื้อ ม.144 และ
ม.185,” มติชน, 25 มิ.ย. 2564.
29 “อภิปรายแก้ รธน. 13 ฉบับ ส่งท้าย ‘วาระแรก’ ต้านรื้อ ม.144 และ ม.185,” มติชน, 25 มิ.ย. 2564.
นอกจากการอภิปรายในสภาแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน พรรคก้าวไกลยังพยายามให้การศึกษากับประชาชน
เพื่อโน้มน้าวให้เห็นข้อดีของระบบ MMP ในเว็บไซต์ของพรรค, ดู พรรคก้าวไกล “รู้จักระบบเลือกตั้ง MMP
เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ใช่ ได้สัดส่วน ส.ส. ที่ถูกต้องตามที่ประชาชนเลือก,” 16 มิ.ย. 2564,
https://www.moveforwardparty.org/article/3271/.