Page 38 - 23464_Full text
P. 38

37



                     ตารางที่ 1: ผลการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ฉบับ วันที่ 24 มิถุนายน 2564


                                 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ              เสียงที่ประชุม   เสียง        ผล
                                                                     2 สภา      วุฒิสมาชิก    การลงมติ

                    ร่าง 1 พลังประชารัฐ (5 ประเด็น)                   334           0          ไม่ผ่าน

                    ร่าง 2 เพื่อไทย (สิทธิเสรีภาพ)                    399           6          ไม่ผ่าน

                    ร่าง 3 เพื่อไทย (บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ)              376           36         ไม่ผ่าน

                    ร่าง 4 เพื่อไทย (ตัดอ านาจ ส.ว. เลือกนายกฯ)       455           15         ไม่ผ่าน

                    ร่าง 5 เพื่อไทย (ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ)            327           1          ไม่ผ่าน

                    ร่าง 6 ภูมิใจไทย (ปรับยุทธศาสตร์ชาติ)             454           35         ไม่ผ่าน

                    ร่าง 7 ภูมิใจไทย (ประกันรายได้พื้นฐาน)            476           55         ไม่ผ่าน


                    ร่าง 8 ประชาธิปัตย์ (สิทธิประชาชน)                469           48         ไม่ผ่าน
                    ร่าง 9 ประชาธิปัตย์ (วิธีแก้รัฐธรรมนูญ)           415           15         ไม่ผ่าน


                    ร่าง 10 ประชาธิปัตย์ (การตรวจสอบป.ป.ช.)           431           33         ไม่ผ่าน

                    ร่าง 11 ประชาธิปัตย์ (ตัดอ านาจส.ว.เลือกนายกฯ)    461           21         ไม่ผ่าน

                    ร่าง 12 ประชาธิปัตย์ (กระจายอ านาจ)               457           50         ไม่ผ่าน

                    ร่าง 13 ประชาธิปัตย์ (บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ)         552          210          ผ่าน



                          ผลการลงมตินี้ สะท้อนโครงสร้างอ านาจและการแบ่งแยกทางการเมือง (political division)
                   ในการเมืองไทยหลายประการ ประการแรก อ านาจของ ส.ว. ที่มีสูงอย่างยิ่งในฐานะหน้าด่านผู้รักษา

                   ค้ ายันกฎ (gate keeper) ที่จะเป็นผู้เปิดทางให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญท าได้หรือไม่ เพราะตามกลไกที่
                   ออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 แม้ว่า ส.ส. ทุกพรรคจะเห็นตรงกันอย่างเอกฉันท์ที่จะแก้
                   รัฐธรรมนูญ แต่หากไม่ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว. อย่างน้อย 1 ใน 3 การแก้รัฐธรรมนูญในมาตราใด
                   ก็ตามก็จะไม่สามารถท าได้ กล่าวในภาษาของการศึกษาสถาบันทางการเมือง ส.ว. จึงด ารงฐานะเป็น
                   ผู้พิทักษ์คุ้มกันกฎที่มีอ านาจสูงอย่างยิ่ง ผลการลงมติครั้งนี้สะท้อนความจริงข้อนี้ โดยมีร่างถึง 11 ร่าง

                   (ยกเว้นร่างที่ 1 และ 5) ที่ได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาและได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแรงจาก
                   พรรคการเมืองทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านแต่ก็ไม่สามารถผ่านสภาได้ส าเร็จ เพราะ ส.ว. คัดค้าน
                   โดยเฉพาะประเด็นการตัดอ านาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ที่พรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและ

                   ฝ่ายค้านต่างผลักดันและเห็นตรงกัน (ยกเว้นพรรคพลังประชารัฐ) ในลักษณะข้ามขั้วการเมือง แต่ร่าง
                   ดังกล่าวก็ตกไป เพราะกระทบกับอ านาจของ ส.ว. โดยตรงที่ย่อมไม่ยอมลดทอนอ านาจตัวเอง ซึ่งหาก
                   มองจากมุมของทฤษฎีการตัดสินใจเลือกอย่างมีเหตุผล (rational actor) พฤติกรรมการลงคะแนน
                   ของ ส.ว. ในประเด็นนี้ย่อมสามารถอธิบายได้ แต่หากอธิบายจากกรอบทฤษฎีประชาธิปไตย บทบาท
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43