Page 34 - 23464_Full text
P. 34
33
ฉบับที่หนึ่ง โดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน เสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 256 ว่าด้วยการตั้งสมาชิกสภา
ร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จ านวน 200 คน โดยเสนอให้ ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อน าไปสู่
การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ห้ามแก้ไขหมวดที่ 1 (บททั่วไป) และหมวดที่ 2 (พระมหากษัตริย์)
ของรัฐธรรมนูญ
ฉบับที่สอง เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาล เสนอให้แก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. จ านวน 200
คนเช่นเดียวกับฉบับแรก หากแต่แบ่งสัดส่วนเป็น 150 คนจากการเลือกตั้ง และอีก 50 คนมาจากการ
แต่งตั้ง และห้ามแก้ไขหมวดที่ 1 และ 2 ของรัฐธรรมนูญโดยเด็ดขาด
ฉบับที่สาม เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน เสนอให้แก้ไขมาตรา 270 และ 271 เพื่อตัดทอน
อ านาจของวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ในการติดตามการปฏิรูปประเทศออกจากรัฐธรรมนูญ
ฉบับที่สี่ เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน แก้ไขมาตรา 272 ไม่ให้ ส.ว. มีอ านาจในการเลือก
นายกรัฐมนตรี และแก้ไขมาตรา 159 เพื่อไม่ให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกที่มิใช่สมาชิกรัฐสภา
ฉบับที่ห้า เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน แก้ไขมาตรา 279 เพื่อยกเลิกความชอบธรรมทาง
กฎหมายของประกาศหรือค าสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ฉบับที่หก เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อให้มีการแก้ไขระบบเลือกตั้งจากปัจจุบันที่เป็น
ระบบบัตรใบเดียวตามระบบจัดสรรปันส่วนผสมให้เป็นแบบบัตร 2 ใบ เช่นเดียวกับที่เคยใช้ใน
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540
ฉบับที่เจ็ด เสนอโดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ (iLaw) ซึ่งมี
การเสนอแก้ไขในหลายประเด็น (รายละเอียดอยู่ในหัวข้อก่อนหน้า)
ผลการลงมติปรากฏว่ารัฐสภาลงคะแนนเห็นชอบในหลักการเฉพาะร่างฉบับที่หนึ่งของ
พรรคร่วมฝ่ายค้าน และฉบับที่สองของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ซึ่งทั้งสองฉบับมีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน
ในการเสนอให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งเป็นกระแสเรียกร้องของกลุ่มประชาชน
ที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนั้น โดยที่ฉบับของรัฐบาลได้รับเสียงเห็นชอบมากที่สุดคือ รับร่าง 576 คน
(ส.ส. 449, ส.ว. 127) ไม่รับ 21 คน งดออกเสียง 123 คน ในขณะที่ร่างอีก 5 ฉบับที่เหลือไม่ผ่าน
ความเห็นชอบจากที่ประชุมสภา ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ การผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาครั้งแรกนี้
มีการน าเสนอประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งเข้ามาด้วย โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็น
ผู้เสนอ แต่เมื่อพิจารณาจากผลการลงมติที่ร่างนี้ถูกปฏิเสธไปด้วยเสียงท่วมท้น สะท้อนว่าในช่วงเวลา
ดังกล่าว พรรคการเมืองต่างๆ ยังไม่มีความชัดเจนและไม่มีฉันทามติในเรื่องกติกาการเลือกตั้ง
แต่อย่างใด ดังที่ปรากฏว่าเสียงเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งได้รับคะแนน
18
เห็นชอบเพียง 268 เสียง ไม่รับ 19 เสียง และงดออกเสียงสูงถึง 432 เสียง
18 “ประชุมสภา: รัฐสภารับหลักการร่างแก้ไข รธน. มาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร. ของฝ่ายค้านและรัฐบาล,” บีบีซีไทย, 18
พ.ย. 2563; “เปิดผลโหวต 7 ร่างแก้ไขรธน. "ส.ส.-ส.ว."ลงมติร่างไหนจ านวนเท่าไหร่?” โพสต์ทูเดย์, 18 พ.ย. 2563,
https://www.posttoday.com/politics/638383.