Page 35 - 23464_Full text
P. 35

34



                          ความพยายามผลักดันให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่
                   ทั้งฉบับนี้ แม้จะผ่านสภาในวาระที่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภาจนลุล่วง

                   เนื่องจากมีความขัดแย้งกันอย่างชัดเจนระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลโดยเฉพาะพรรค
                   พลังประชารัฐที่เป็นแกนน าจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาที่ส่วนใหญ่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย
                   กับการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ดังที่ปรากฏว่าหลังจากผ่านวาระที่หนึ่ง ที่ประชุมสภาได้ตั้ง
                   กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านสภาเรื่องการตั้ง ส.ส.ร. มีการประชุมนัดแรก

                   วันที่ 24 พ.ย. โดยใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลักในการพิจารณาใน
                   วาระที่ 2 แต่พรรคฝ่ายค้านและรัฐบาลก็ยังมีความเห็นที่ต่างกันอย่างชัดแจ้ง โดยพรรคการเมืองฝั่ง
                   รัฐบาลเริ่มแสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อสาธารณะว่ามิได้ต้องการให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทั้งที่
                   ร่างที่พิจารณาในชั้นกรรมาธิการจะเป็นร่างที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอเองก็ตาม จุดหักเหส าคัญคือ ใน

                   วันที่ 9 ก.พ. 2564 ที่ประชุมสภาเห็นชอบกับญัตติด่วนของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ
                   พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ที่ขอให้รัฐสภาพิจารณาส่งเรื่องให้ศาล
                   รัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ของรัฐสภา เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่าง
                   รัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับนั้นเป็นการกระท าที่ขัดรัฐธรรมนูญ

                   หรือไม่ ญัตติดังกล่าวผ่านไปด้วยคะแนน 366 ต่อ 315 งดออกเสียง 15 เสียง

                          ระหว่างที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในวันที่ 25 ก.พ. 2564 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งมี
                   สาระส าคัญคือ การแก้ไขวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เพื่อเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ
                   (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งขึ้นมาจัดท ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในวาระ
                   ที่ 2 (พิจารณาเป็นรายมาตรา) แต่ในวันที่ 11 มี.ค. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า

                   รัฐสภามีอ านาจและหน้าที่จัดท ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องจัดท าประชามติ 2 ครั้งด้วยกัน คือ
                   ครั้งแรก ให้ท าประชามติถามประชาชนว่าต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และครั้งที่สองเมื่อ
                   จัดท าร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ต้องจัดให้มีการลงประชามติอีกครั้งเพื่อถามประชาชนว่าจะรับหรือไม่

                                                          19
                   รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สภาร่างขึ้นมา  ผลจากค าวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญท าให้เกิด
                   ข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางในสังคมว่าการลงมติในสภาเพื่อผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3
                   ยังจะท าได้หรือไม่ หรือต้องย้อนกลับไปท าประชามติเสียก่อน นักการเมืองจากพรรคพลังประชารัฐ
                   และ ส.ว. บางรายเริ่มออกมาเสนอความเห็นว่ารัฐสภาไม่สามารถลงมติในวาระ 3 ได้ เพราะจะเป็น

                   การท าผิดรัฐธรรมนูญ

                          ต่อมาในวันที่ 17 มี.ค. ที่ประชุมร่วมรัฐสภานัดลงมติว่าจะเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใน
                   วาระ 3 หรือไม่ ผลปรากฏว่ามีเสียงเห็นชอบเพียง 208 คะแนน ไม่เห็นชอบ 94 คะแนน และงดออก
                   เสียง 136 คะแนน เท่ากับว่าคะแนนเสียงเห็นชอบต่ ากว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนสมาชิกที่มีอยู่ 737 คน
                   (หรือ 369 คะแนน) ถือว่ารัฐสภาไม่เห็นชอบกับการลงมติในวาระ 3 ท าให้ร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญที่จะ

                   เปิดทางให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อจัดท ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับจึงตกไป ผลการ
                   ลงคะแนนสะท้อนชัดเจนว่าวุฒิสมาชิกกับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐมีมติไม่เห็นชอบและงดออกเสียง
                   ซึ่งพฤติกรรมการลงคะแนนบ่งชี้ว่าไม่ต้องการให้ร่างแก้ไขฉบับนี้ผ่านสภา ในขณะที่ ส.ส. ฝ่ายค้าน



                   19  ดูค าวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญได้ในเว็บไซต์ของศาลรัฐธรรมนูญ https://www.constitutionalcourt.or.th/
                   occ_web/download/article/article_20210315171005.pdf; และดูความเห็นประกอบของฝ่ายต่างๆ ใน “แก้
                   รัฐธรรมนูญ: ศาลรัฐธรรมนูญชี้สภามีอ านาจร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ต้องจัดให้ลงประชามติ,” บีบีซีไทย, 11 มี.ค. 2021.
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40