Page 33 - 23464_Full text
P. 33

32



                   การแก้รัฐธรรมนูญไปในทิศทางที่ตอบสนองต่อผลประโยชน์ของตน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการแก้
                   ระบบเลือกตั้งที่กลายเป็นประเด็นการต่อสู้ส าคัญที่สุดระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ



                   การเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง: การต่อสู้เพื่อก าหนดกติกาและความได้เปรียบในสนามการ

                   เลือกตั้ง
                          ส าหรับพรรคการเมืองซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองที่เป็นทางการในระบบ ซึ่งตามปรกติแล้ว

                   มีหน้าที่ในการรวบรวมปัญหาและข้อเรียกร้องของกลุ่มผลประโยชน์และขบวนการทางสังคมต่างๆ
                   เข้ามาจัดท าเป็นนโยบายทางการเมือง เราจึงพบว่าเมื่อการชุมนุมประท้วงบนท้องถนนด าเนินไปอย่าง
                   เข้มข้นในช่วงกลางปี 2563 ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน โดยมีประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญเป็นหัวใจ

                   ส าคัญข้อหนึ่งในการเรียกร้องของประชาชน พรรคการเมืองจ านวนหลายพรรคที่สามารถจับสัญญาณ
                   ทางการเมืองได้รวดเร็วต่างได้หยิบประเด็นนี้ และเริ่มจัดท าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนซึ่งครอบคลุม
                   หลายประเด็นผลักดันเข้าสู่รัฐสภา รวมถึงประเด็นการแก้ระบบเลือกตั้งด้วย สรุปได้ว่า กระแสการ
                   เรียกร้องของประชาชนท าหน้าที่ทั้งเป็นแรงกดดันและเป็นโอกาสให้พรรคการเมืองต่างๆ ต่อสู้กันเพื่อ

                   ช่วงชิงการน าในการปรับเปลี่ยนกติกาทางการเมืองที่จะท าให้พวกเขาได้เปรียบในสนามแข่งขันทาง
                   การเมือง

                          ในส่วนนี้ จะอภิปรายพัฒนาการของการเคลื่อนไหวแก้รัฐธรรมนูญของบรรดาพรรคการเมือง
                   ในสภาตามล าดับเวลาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 มาจนถึงปี 2565 เพื่ออธิบายให้เข้าใจว่าแต่ละพรรค
                   เสนอร่างแก้ไขในประเด็นใดบ้าง ผลักดันในช่วงเวลาใด มีประเด็นใดที่ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา

                   และสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส. ของแต่ละพรรคและ ส.ว. มีแบบแผนการลงมติเช่นใด

                          หากเราพิจารณาเส้นทางของการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมือง จะพบว่า
                   มีการผลักดันจากพรรคการเมืองตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ในช่วงเดียวกับที่องค์กรภาคประชาชน
                   “โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์)” ผลักดันร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาในเดือน
                   กันยายน 2563 หลังจากรวบรวมเสียงจากประชาชนได้จ านวนมาก พรรคการเมืองก็เสนอร่างแก้ไข

                   รัฐธรรมนูญของตนเองเข้าสู่สภาด้วยในเวลาใกล้เคียงกัน ทั้งร่างที่ผลักดันโดยพรรคการเมือง
                   ฝ่ายรัฐบาลและพรรคการเมืองฝ่ายค้าน โดยข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ในช่วงแรกของการผลักดันนี้
                   พรรคการเมืองในแต่ละฝั่งยังท างานร่วมกันอย่างค่อนข้างมีเอกภาพ กล่าวคือ ร่างแก้ไขที่ถูกยื่นเข้าสู่

                   สภาเป็นร่างที่ยื่นในนามของพรรคแนวร่วมรัฐบาลกับพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน มากกว่าที่จะเป็นร่างที่
                   เสนอในนามของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง (ดังที่จะเกิดขึ้นในปี 2564)

                          ต่อมาในช่วงวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2563 รัฐสภาได้ประชุมเพื่ออภิปรายญัตติร่างแก้ไข
                   รัฐธรรมนูญทั้งหมด 7 ฉบับที่มีการยื่นเข้ามาให้สภาพิจารณาทั้งร่างของภาคประชาชน (กลุ่มไอลอว์)
                   ร่างจากฝ่ายรัฐบาล และร่างของฝ่ายค้าน โดยเนื้อหาส าคัญของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับมี

                           17
                   ดังต่อไปนี้





                   17  “เปิดสาระส าคัญ 7 ร่างแก้รัฐธรรมนูญ,” ไทยพีบีเอส, 16 พ.ย. 2563, https://www.thaipbs.or.th/news/
                   content/298390; “แก้รัฐธรรมนูญ: เปิด 7 ร่าง ปัจจัยชี้ขาดร่างไหนจะผ่าน,” ประชาชาติธุรกิจ, 17 พ.ย. 2563.
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38