Page 32 - 23464_Full text
P. 32

31



                   มีส่วนร่วมทางการเมืองยังมีความคาดหวังและเชื่อมั่นว่าการปรับเปลี่ยนกติกาทางการเมืองและการต่อสู้
                                                                                              15
                   ภายใต้กรอบเชิงสถาบันจะสามารถน าความเปลี่ยนแปลงมาสู่สังคมการเมืองที่พวกเขาใฝ่ฝันได้
                          กล่าวได้ว่าการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนร่วมสมัยเป็นการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่มี

                   ลักษณะเป็นขบวนการปฏิรูปสถาบันทางการเมือง (political institutional reform movement)
                   มากกว่าที่จะเป็นขบวนการปฏิวัติที่มุ่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมเศรษฐกิจแบบถอนรากถอนโคน
                   (economic and social revolution movement) แต่ด้วยข้อจ ากัดของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ถูก
                   ออกแบบมาให้แก้ไขปรับเปลี่ยนยาก โดยเฉพาะอ านาจของวุฒิสมาชิกดังที่อธิบายไปแล้ว จึงน าไปสู่

                   ความตึงเครียดระหว่างกติกาที่ขาดความยืดหยุ่นกับพลังทางการเมืองที่ปรารถนาความเปลี่ยนแปลง
                   จนกลายเป็นความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและไม่ถูกคลี่คลาย

                          ย้อนไปในประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่จะพบว่าประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
                   เป็นชนวนเหตุของขัดแย้งทางการเมืองที่ตึงเครียดและรุนแรงหลายครั้ง ในบางเหตุการณ์ส าคัญ
                   การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลายเป็นสาเหตุส าคัญของความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐบาล ไม่ว่าจะ

                   เป็นเหตุการณ์เคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาและประชาชนซึ่งเรียกร้องรัฐธรรมนูญในเหตุการณ์ 14
                   ตุลาคม 2516 แต่รัฐบาลกลับตัดสินใจจับกุมประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหว หรือเหตุการณ์พฤษภาคม
                   2535 ที่ผู้ชุมนุมมีข้อเสนอให้นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งลาออก และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็น
                   ประชาธิปไตย ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จบลงด้วยการที่รัฐบาลทหารต้องลงจากอ านาจ

                   เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย และมีการแก้ไขรวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีเนื้อหา
                                        16
                   เป็นประชาธิปไตยกว่าเดิม
                          ในช่วงปี 2563-2564 การต่อสู้เรียกร้องของภาคประชาชนที่ผลักดันเคลื่อนไหวเรื่อง
                   แก้รัฐธรรมนูญแม้จะไม่ส าเร็จ แต่ก็ได้สร้างให้เกิดกระแสถกเถียงสาธารณะในวงกว้างเกี่ยวกับ
                   ความชอบธรรมและปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 และได้ส่งแรงกระเพื่อมกดดันให้พรรคการเมือง

                   และผู้มีอ านาจกลุ่มต่างๆ ต้องแสดงท่าทีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข
                   รัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น แต่ก็ตกอยู่ในสภาพที่ถูกกดดันทางการเมือง จนท าให้การแก้รัฐธรรมนูญ
                   กลายเป็นวาระส าคัญในรัฐสภาที่พรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างพยายามผลักดัน





                   15  ดังที่งานวิจัยที่ส ารวจทัศนคติและการเคลื่อนไหวของเยาวชนในช่วงปี 2653-2564 พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหว
                   ไม่ได้แยกสิ่งที่เรียกว่า “การเมืองในชีวิตประจ าวัน” (everyday life politics) กับการเมืองเชิงสถาบัน
                   (institutional politics) ออกจากกัน พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธการเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมผ่าน
                   กระบวนการและสถาบันทางการเมืองที่เป็นทางการ พวกเขาไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งอย่างแข็งขัน ติดตามการ
                   ประชุมรัฐสภาอย่างตื่นตัวและคาดหวังให้นักการเมืองผลักดันประเด็นที่พวกเขาอยากเห็น จ านวนไม่น้อยเข้าไปมี
                   ส่วนร่วมกับกิจกรรมของพรรคการเมือง เพราะไม่ได้มองว่านักการเมืองและพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจแต่
                   สามารถเป็นพาหะของการเปลี่ยนแปลงได้ และพวกเขามีความเชื่อมั่นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการเปลี่ยนแปลง
                   โครงสร้างทางการเมืองอย่างสันติที่จะท าให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น, โปรดดู พรรณราย โอสถาภิรัตน์ และคณะ,
                   การมีส่วนร่วมของพลเมืองในยุคดิจิทัล: การเคลื่อนไหวทางการเมืองของเยาวชนไทยใน พ.ศ. 2563 (แผนงานคนไทย
                   4.0 ส านักงานการวิจัยแห่งชาติ, 2565).
                   16  ประจักษ์ ก้องกีรติ, และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ: การเมืองวัฒนธรรมของนักศึกษาและปัญญาชนก่อน 14
                   ตุลาฯ (กรุงเทพฯ: ฟ้าเดียวกัน, 2556); William A. Callahan, Imagining Democracy: Reading "The Events
                   of May" in Thailand (Singapore: Institute for Southeast Asian Studies Press, 2000).
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37