Page 23 - 23464_Full text
P. 23

22



                                                         บทที่ 2

                                     การแก้ไขระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2560:
                                            การเมืองของการต่อสู้เพื่อก าหนดกติกา



                   ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแก้ไขระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญบับ พ.ศ.2560
                          ระบบเลือกตั้งที่ถูกออกแบบในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 ร่างโดยคณะกรรมาธิการ 21

                   คนที่แต่งตั้งโดย คสช. และมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ซึ่งเป็นระบบเลือกตั้งที่แตกต่างจาก
                   ทุกระบบที่ประเทศเคยใช้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นระบบเลือกตั้งก่อนปี พ.ศ.2540 ระบบที่ใช้ใน
                   รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 และระบบที่ใช้ในรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550

                          นับตั้งแต่มีการน าระบบเลือกตั้งนี้มาใช้ได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาต่างๆ
                   หลากหลายแง่มุมที่ระบบเลือกตั้งนี้ก่อให้เกิดขึ้น โดยกลุ่มที่วิพากษ์วิจารณ์มีตั้งแต่พรรคการเมืองและ

                   นักการเมือง นักกฎหมาย นักวิชาการ อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง
                   ภาคประชาสังคม และกลุ่มการเมืองต่างๆ โดยประเด็นที่วิจารณ์มีหลากหลายประเด็นตั้งแต่ การท าให้
                   เกิดระบบพรรคการเมืองหลายพรรคที่อ่อนแออันน าไปสู่รัฐบาลผสมจ านวนมากพรรคที่ขาด

                   ประสิทธิภาพ การท าให้เกิดพรรคขนาดเล็กจ านวนมากในระบบการเมืองและพรรคขนาดเล็กที่ไม่ได้มี
                   ฐานเสียงแน่นหนาจากประชาชนแต่กลับมีอ านาจต่อรองในสภาและในการตั้งรัฐบาล ท าให้เกิดปัญหา
                   ธนกิจการเมืองและการต่อรองย้ายพรรคอย่างเข้มข้นในสภา ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองเนื่องจาก
                   มีระบบหลายพรรคที่กระจัดกระจาย (fragmented multi-party system) ความไม่เป็นธรรมต่อ

                   ประชาชนเพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมี 2 ประเภท แต่ประชาชนมีสิทธิเลือกได้เพียง
                   สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น เจตนารมณ์ในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของ
                   ประชาชนจึงไม่สามารถถูกสะท้อนออกอย่างเต็มที่เพราะแม้ไม่ชอบผู้สมัครที่พรรคส่งมาก็จ าใจต้อง
                   เลือกเนื่องจากกลัวพรรคที่ตนสนับสนุนจะไม่ได้คะแนน หรือในทางกลับกันชอบผู้สมัครในเขตเลือกตั้ง

                   ของตนแต่ไม่ชอบพรรคที่ผู้สมัครรายนั้นสังกัด เมื่อลงคะแนนให้ผู้สมัครก็ท าให้พรรคที่ตนไม่ชอบได้
                   คะแนนไปด้วย

                          ระบบเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสมยังถูกวิจารณ์ว่าท าให้การแข่งขันเชิงนโยบายลดน้อยลง
                   เพราะสร้างแรงจูงใจให้ทุกพรรคต้องแข่งขันแย่งคะแนนกันในระบบเขต ท าให้ยุทธศาสตร์และยุทธวิธี
                   การหาเสียงเลือกตั้งเน้นไปที่การคัดสรรและแย่งชิงตัวผู้สมัครที่มีฐานเสียงดีเป็นที่รู้จักกว้างขวาง

                   โดยเฉพาะผู้สมัครจากตระกูลการเมืองดังหรือผู้มีอิทธิพลลงสมัครในระบบเขต ท าให้การแข่งขันใน
                   ระบบเขตมีความดุเดือดเข้มข้น มีการใช้อิทธิพลและเงินสูงขึ้นในการเลือกตั้ง รวมถึงท าให้การเมือง
                                                                       2
                   แบบอุปถัมภ์มีอิทธิพลสูงขึ้นในการก าหนดชัยชนะในการเลือกตั้ง



                   2  ดูประเด็นปัญหาและข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่อระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ใน พรรณรัตน์ ดิษฐ์เจริญ(2562),
                   “ระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบผสมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560,”
                   วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; ปริญญา เทวานฤมิตรกุล (2565), วิจัย
                   ประเมินผลการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 (กรุงเทพฯ: ส านักงาน
                   คณะกรรมการการเลือกตั้ง); ประจักษ์ ก้องกีรติ, When We Vote: พลวัตการเลือกตั้งและประชาธิปไตยในอาเซียน
                   (กรุงเทพฯ: มติชน, 2563); และดูความเห็นเพิ่มเติมของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (อดีตนายกรัฐมนตรี) โคทม อารียา (อดีต
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28