Page 21 - 23464_Full text
P. 21

20



                   แบบเสียงข้างมาก (majoritarian system) เพราะต้องการสร้างรัฐบาลที่เข้มแข็งและเสถียรภาพ
                   ทางการเมือง และการผลักดันนโยบายได้อย่างมีเอกภาพของรัฐบาลโดยไม่ต้องเผชิญกับการต่อรอง

                   และความขัดแย้งในรัฐบาลซึ่งมักจะเกิดจากรัฐบาลผสมที่เป็นผลผลิตของระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วน
                   โดยประเทศที่ใช้ระบบเสียงข้างมากตระหนักดีถึงความไม่เป็นสัดส่วนระหว่างคะแนนเสียงกับที่นั่ง
                   ในระบบเลือกตั้งที่ตนเลือกใช้แต่ใคร่ครวญแล้วว่าผลลัพธ์เชิงบวกด้านความเข้มแข็งและเสถียรภาพ
                   ทางการเมืองมีมากกว่า ฉะนั้น การออกแบบระบบเลือกตั้งโดยให้ความส าคัญกับความเป็นสัดส่วน

                   เป็นหลักจึงอาจต้องแลกมาด้วยผลกระทบอย่างอื่นด้วยเสมอ (trade-offs) (Gallagher 1991; Blais
                   2008; Becher and Gonzalez 2019)

                          2. ความเข้มแข็งและเสถียรภาพของรัฐบาล (government)

                          ความเข้มแข็งและเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นเป้าหมายส าคัญประการหนึ่งในการออกแบบ
                   ระบบเลือกตั้ง และส่งผลต่อคุณภาพของประชาธิปไตย เพราะความไร้เสถียรภาพและอ่อนแอของ
                   รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีผลท าให้ประชาชนเบื่อหน่ายต่อการเมือง และขาดความศรัทธาต่อ

                   ระบอบประชาธิปไตย ดังที่เคยเกิดขึ้นในการเมืองไทยก่อนการปฏิรูปการเมืองปี 2540 ที่รัฐบาลจาก
                   การเลือกตั้งบริหารประเทศเพียง 1 ปีหรือ 2 ปีก็เกิดความขัดแย้งจนนายกฯ ต้องลาออกหรือตัดสินใจ
                   ยุบสภาโดยที่ยังไม่มีโอกาสผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน การเลือกตั้งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
                   จนประชาชนเกิดความเบื่อหน่ายต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่มิได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อชีวิตของ

                   ตนเอง รัฐบาลผสมที่ประกอบด้วยพรรคการเมืองจ านวนมากยังเป็นอุปสรรคส าคัญในการผลิตและ
                   ผลักดันนโยบายอย่างมีเอกภาพ (policy coherence)

                          3. ความเข้มแข็งของระบบพรรคการเมือง (party system)

                          ในการศึกษาเรื่องระบบเลือกตั้ง ข้อสรุปประการหนึ่งที่ชัดเจนคือ ระบบพรรคการเมือง
                   ในแต่ละประเทศจะเป็นเช่นใดเป็นผลลัพธ์ของปัจจัยหลายประการประกอบกัน ตั้งแต่ภูมิหลังและ

                   พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทางการเมือง โครงสร้างชนชั้นน า ลักษณะของการแบ่งแยก
                   ทางสังคม และความขัดแย้งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม องค์ความรู้ทางวิชาการที่สั่งสมมาอย่าง
                   ยาวนานมีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าระบบเลือกตั้งเป็นปัจจัยที่ส าคัญที่สุดประการหนึ่งในการก าหนดลักษณะ
                   ของระบบพรรคการเมือง (Duverger 1954; Moser, Scheiner, and Stoll 2018; Shugart and
                   Taagepera 2018) คือ แต่ละสังคมจะมีระบบการเมืองแบบพรรคเด่นพรรคเดียว ระบบ 2 พรรค

                   ระบบหลายพรรคแบบมีเสถียรภาพ หรือระบบหลายพรรคแบบกระจัดกระจายเป็นสิ่งที่ถูกก าหนด
                   จากระบบเลือกตั้งเป็นปัจจัยส าคัญ

                          4. การให้ความส าคัญกับพรรคขนาดเล็ก (representation)

                          เกณฑ์หนึ่งในการพิจารณาถึงระบบเลือกตั้ง คือ การดูว่าระบบเลือกตั้งนั้นเปิดโอกาสให้กับ
                   พรรคขนาดเล็กได้มีที่นั่งในสภาหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด การให้ความส าคัญในประเด็นนี้เกี่ยวโยง

                   กับคุณภาพของระบอบประชาธิปไตยที่จะต้องเคารพและสะท้อนเสียงที่หลากหลายของประชาชน
                   ระบอบประชาธิปไตยเริ่มจากฐานคิดว่าคนแต่ละกลุ่มในสังคมมีความคิด ความเชื่อ ผลประโยชน์
                   และอัตลักษณ์ที่หลากหลาย ระบบการเมืองที่ดีไม่ควรจะปิดกั้นความหลากหลายดังกล่าวและบังคับให้
                   ทุกคนคิดเห็นและมีอัตลักษณ์เดียวกัน แต่ควรจะเปิดโอกาสให้ความหลากหลายดังกล่าวได้แสดงออก

                   และมีตัวแทนสะท้อนเสียงความหลากหลายนั้นในระบบ
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26