Page 44 - 23461_Fulltext
P. 44

35


                                                                                    151
                       คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญดังต่อไปนี้ คือ
                              -  ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกกรณีโดย

                                 ไม่ล่าช้า และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการ
                                 ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการละเมิดสิทธิ
                                 มนุษยชนต่อหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้อง
                              -  จัดท ารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศเสนอต่อรัฐสภา

                                 และคณะรัฐมนตรี และเผยแพร่ต่อประชาชน
                              -  เสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อรัฐสภา
                                 คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมตลอดทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ
                                 ระเบียบ หรือค าสั่งใดๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน

                              -  ชี้แจงและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีที่มีการรายงานสถานการณ์
                                 เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม
                              -  สร้างเสริมทุกภาคส่วนของสังคมให้ตระหนักถึงความส าคัญของสิทธิมนุษยชน
                              -  หน้าที่และอ านาจอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ


                       โดยในการปฏิบัติหน้าที่ รัฐธรรมนูญให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องค านึงถึงความผาสุก
               ของประชาชนชาวไทยและผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นส าคัญ

                       อ านาจของ ก.ส.ม. จึงมีทั้งการไต่สวนกรณีละเมิดกฎหมาย และกว้างขวางไปกว่านั้น คือ ละเมิด
               รัฐธรรมนูญและสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้ ยังมีงานเชิงรุก คือ ชี้แจงข้อเท็จจริงหากรัฐบาลไทยถูกกล่าวหา
               เรื่องสิทธิมนุษยชนโดยไม่ถูกต้อง และการส่งเสริมการตระหนักถึงสิทธิมนุษยชน
                       เมื่อ ก.ส.ม. ไต่สวนแล้ว อาจแจ้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขการ
               ละเมิดภายในเวลาที่ก าหนด ไม่เช่นนั้นแล้วให้ ก.ส.ม. รายงานต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งอาจเป็นโทษทางวินัย หรือ

                                                                                              152
               ความรับผิดทางอาญาในภายหลัง แม้จะไม่ชัดเจนเท่ากรณีข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินก็ดี
                       ข้อสังเกตคือ อ านาจของ ก.ส.ม. ที่จะเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองเพื่อให้มีการ
               ตรวจสอบทบทวนอันเป็นนามธรรม (abstract review) นั้นถูกถอดออกจากรัฐธรรมนูญ 2560 แล้ว ก.ส.ม. มี

               แต่อ านาจฟ้องศาลอาญาหากพบว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นความผิดอาญา และผู้เสียหายไม่อาจฟ้อง
                                                     153
               คดีเองได้ ให้คณะกรรมการเป็นผู้เสียหายแทน
                       ในกรณีที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นจ าเป็นต้องด าเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไป
               จะเป็นภยันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคลหรือไม่มีทางเยียวยาได้ในภายหลัง กรรมการแต่ละคนของ ก.

               ส.ม. อาจสั่งการไปเองได้ให้หน่วยงานของรัฐช่วยเหลือเยียวยาเลยก่อนจะกลับไปแจ้งให้ ก.ส.ม. ทราบ หากเป็น
               กรณีจ าเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ กรรมการมีอ านาจสั่งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือต ารวจที่อยู่ในบริเวณ
                                                                      154
               ใกล้เคียงหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือตามที่เห็นสมควร







               151  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 247.
               152  พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 36.
               153  พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 37.
               154  พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 38.
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49