Page 48 - 23461_Fulltext
P. 48

39


                       ป.ป.ช. ท างานใกล้ชิดกับองค์กรตุลาการ โดยเฉพาะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทาง
               การเมือง และศาลฎีกา ก.ก.ต. เองท างานกับศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง และศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยผลการ

               เลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินอาจส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองได้
                       นอกจากนี้ องค์กรอิสระยังใกล้ชิดกันเองด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ าซ้อน มีบทตัดอ านาจซึ่งกันและกัน
               และตัดอ านาจที่จะก้าวก่ายเรื่องคดีความในศาลด้วย ผู้ตรวจการแผ่นดินอาจส่งเรื่องไปยัง ก.ส.ม. ในกรณีการ
               ละเมิดสิทธิมนุษยชน และผู้ตรวจการแผ่นดินยังอาจส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองได้อีกด้วย

               กรณีที่ความเสียหายด้านการเงินนั้นร้ายแรง ส.ต.ง. ส่งเรื่องไปยัง ก.ก.ต. และ ป.ป.ช. พิจารณาก่อนจะส่งเรื่อง
               ไปให้คณะรัฐมนตรีและฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาต่อ
                       การแยกตัวออกจากฝ่ายการเมืองนั้นเป็นคุณสมบัติส าคัญขององค์กรอิสระ ซึ่งตามชื่อและธรรมชาติ
               ของตัวเอง ย่อมต้องรักษาระยะห่างจากฝ่ายการเมือง อย่างไรก็ดี การรักษาระยะห่างจากการเมืองนั้นไม่

               เหมือนกับการไม่ใส่ใจ ในกรณีของไต้หวัน สภาตรวจสอบไม่อาจส่งเรื่องการถอดถอนประธานาธิบดีและรอง
               ประธานาธิบดีไปยังศาลวินัยได้ แต่ต้องเสนอสภานิติบัญญัติ ในขณะที่รัฐธรรมนูญไทยไม่ได้แยกความต่าง
               ระหว่างผู้ด ารงต าแหน่งราชการประจ าระดับสูงออกจากผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง ทั้งที่ความชอบธรรมหรือ
               ที่มาของคนสองกลุ่มนี้ต่างกันมาก ซึ่งท าให้การความตึงเครียดระหว่างฝ่ายการเมืองและฝ่ายตรวจสอบได้ง่าย

                       การรักษาความสัมพันธ์กับฝ่ายการเมืองนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสภาพการเมืองในความเป็นจริงของ
               ประเทศนั้นๆ ด้วย ในไต้หวัน ประชาธิปไตยแข็งแรง (vibrant democracy) พรรคการเมืองสองพรรคผลัดกุม
               อ านาจ ไม่มีผู้ผูกขาดอ านาจยาวนาน ฝ่ายการเมืองจึงอ่อนตัวกว่า เอื้อให้ฝ่ายตรวจสอบท างานได้ ยิ่งไปกว่านั้น

               การที่ฝ่ายตรวจสอบมีประวัติการท างานมายาวนานและอาจอ้างไปได้ถึงระบอบโบราณที่เป็นมา ล้วนช่วยหนุน
               เสริมสถานะ ปัจจัยเหล่านี้ท าให้แรงกดดันทางการเมืองต่อองค์กรอิสระนั้นมีไม่มากเท่าแอฟริกาใต้
                       ในทางกลับกัน แอฟริกาใต้ตกอยู่ใต้การน าของพรรคการเมืองเดียวผูกขาดยาวนาน คือ ANC
               ประชาธิปไตยในแอฟริกาใต้เปราะบาง ฝ่ายการเมืองจึงรู้สึกว่า การท างานขององค์กรในหมวดที่ 9 นั้นเป็นการ
               วิจารณ์พรรค ANC โดยตรง จึงพยายามอ้างความนิยมของประชาชนเพื่อใช้กดดันองค์กรอิสระให้ลดการ

               ตรวจสอบการใช้อ านาจของรัฐบาล ANC การแทรกแซงดังกล่าวท าให้การเผชิญหน้ากันระหว่างองค์กร
               ตรวจสอบและฝ่ายการเมืองรุนแรงอย่างยิ่ง
                       ในประเทศไทย การเมืองเปราะบางไม่มีพรรคใดยึดครองอ านาจได้ยาวนานก็จริง แต่ประชาชนแบ่ง

               ออกเป็นฝักฝ่าย แต่ละฝ่ายมีมุมมองต่อการท างานขององค์กรอิสระที่แตกต่างจากสุดขั้ว ขึ้นกับจุดยืนการเมือง
               ท าให้การท างานขององค์กรอิสระ และความสัมพันธ์กับฝ่ายการเมือง เป็นเรื่องท้าทายยิ่ง
                       การเมืองที่เปราะบาง ในอีกแง่หนึ่ง ก็เป็นเหตุผลในการด ารงอยู่ขององค์กรอิสระ หากการเมืองใน
               ระบอบรัฐสภามีความเข้มแข็ง นักการเมืองไม่อยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์

               คณะกรรมาธิการของรัฐสภาเองปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพ เหตุผลในการพึ่งพิงองค์กรอิสระก็จะน้อยลงไป
               ช่วยลดข้อกล่าวหาและการเผชิญหน้ากันระหว่างอ านาจต่างๆได้ แต่สภาพนี้ยังไม่เกิดขึ้น
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53