Page 62 - 23154_Fulltext
P. 62
57
แห่งชาติ และสภาผู้แทนมลรัฐ โดยในส่วนนี้จะอธิบายใน 3 ส่วนส าคัญ ได้แก่ มลรัฐ สภาแห่งชาติ และคณะมนตรี
แห่งมลรัฐ
1) มลรัฐ (Länder) ขอบเขตอ านาจการออกกฎหมายระดับมลรัฐจะถูกก ากับไว้ในมาตรา 14 แบ่งย่อย
ได้ 6 ประเด็นดังนี้
“มาตรา 14 ... ขอบเขตส าหรับการออกกฎหมายและบริหารกิจกรรมของมลรัฐ ประกอบด้วย:
(1) สวัสดิการสังคม; นโยบายว่าด้วยประชากร เท่าที่ไม่ขัดต่อมาตรา 10; การริเริ่ม
สวัสดิการและบริการสังคม; สวัสดิการมารดาและเด็ก; โรงพยาบาลและการพยาบาลที่บ้าน; การ
ริเริ่มนโยบายด้านสุขภาพ; นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติ
(2) สถาบันสาธารณะเพื่อยับยั้งข้อพิพาทนอกศาล
(3) การปฏิรูปที่ดิน
(4) การคุ้มครองด้านเกษตรจากการติดเชื้อ
(5) ประเด็นเกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า เท่าที่ไม่ขัดต่อมาตรา 10
(6) กฎหมายคุ้มครองแรงงานและลูกจ้าง รวมถึงแรงงานภาคเกษตร”
เมื่อเชื่อมโยงเข้ากับบทบาทการคุ้มครองผลประโยชน์แห่งมลรัฐการเมืองระหว่างประเทศแล้ว จะสังเกตได้
ว่ารัฐธรรมนูญออสเตรียให้ความส าคัญกับการแบ่งอ านาจตามหลักการสหพันธรัฐในการเปิดโอกาสให้ตัวแทนระดับ
มลรัฐได้มีส่วนร่วมในการจัดสรรผลประโยชน์ทางการเมือง ดังมาตรา 23d
“มาตรา 23d (1) สหพันธ์ต้องรายงานข้อมูลโครงการหรือกรอบการท างานร่วมกับสหภาพยุโรปที่
ส่งผลกระทบต่อมลรัฐให้แก่มลรัฐทราบโดยไม่ล่าช้า ...
มาตรา 23d (3) รัฐบาลสหพันธ์สามารถเชิญให้มลรัฐเสนอตัวแทนเข้ามีส่วนร่วมในการประชุม
ภายใต้ประเด็นสหภาพยุโรป ...”
บทบาทด้านนิติบัญญัติระดับมลรัฐนั้นจะด าเนินการโดยคณะมนตรีแห่งมลรัฐ (Länderrat) ที่มาจากการ
เลือกตั้งทางตรงของพลเมืองมลรัฐนั้น ตามมาตรา 95 และคณะมนตรีมลรัฐก็มีอ านาจในการเลือกตั้งตัวแทนของ
มลรัฐเพื่อด ารงต าแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนมลรัฐอีกล าดับตามมาตรา 95 (2)
2) สภาแห่งชาติ (nationalrat) เป็นสภาที่มาจากการเลือกตั้งทางตรงอย่างเสรีและโดยลับภายใต้หลัก
เลือกตั้งแบบมีตัวแทนสัดส่วน ตามมาตรา 26 นอกจากนั้นอายุที่เข้าเกณฑ์มีสิทธิ์ได้ตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป
และสภาแห่งชาติแต่ละสมัยจะมีวาระ 5 ปีตามมาตรา 27
ทั้งนี้ในปัจจุบัน การผ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของสภาแห่งชาติ
จ าเป็นต้องได้รับเสียงข้างมากเห็นชอบไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสภา กฎหมายนี้จึงเป็นเงื่อนไขให้การต่อรองของ
พรรคการเมืองในสภาเป็นไปอย่างแข่งขันกันมากขึ้น เนื่องจากการผ่านกฎหมายแต่ละครั้งต้องอาศัยความร่วมมือ
ประนีประนอมอย่างสูงในสภาเพื่อให้กฎหมายแต่ละฉบับสามารถได้รับเสียงเห็นชอบเพียงพอตามเงื่อนไข เว้นแต่
กรณีที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ร่วมมือกันตั้งรัฐบาลได้ส าเร็จและมีเสียงรวมกัน 2 พรรคเพียงพอต่อเงื่อนไขจ านวน
เสียง 2 ใน 3 ของสมาชิกสภาตั้งแต่ต้น