Page 58 - 23154_Fulltext
P. 58

53


               พลเมืองเยอรมัน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว หลังจากเปลี่ยนผ่านสู่ห้วงเวลาหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1968 จึง

               ส่งผลให้รัฐธรรมนูญกลายเป็นกลไกเชิงสถาบันที่มุ่งคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพลเมืองเยอรมัน และจัด
               สมดุลความสัมพันธ์เชิงอ านาจใหม่ให้ระบบรัฐสภาเป็นศูนย์กลางในการบริหารปกครองภายใต้หลักพหุนิยมทาง
               การเมืองและการสื่อสารกับสังคมด้วยความโปร่งใส ขณะเดียวกันอ านาจของประธานาธิบดีจึงอ่อนลงอย่างมาก

               เพื่อให้ระบบสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นตัวแทนของความพหุนิยมทางการเมืองของชาวเยอรมันเป็นผู้ครองอ านาจน า
               ทางการเมืองในความสัมพันธ์เชิงอ านาจของระบบการเมืองเยอรมัน

                       ความสัมพันธ์เชิงอ านาจในระบบรัฐสภาของเยอรมนี วางหลักการให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นแกนหลักในการ
               บริหารตามประชาธิปไตยแบบพหุนิยม และนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกด้วยเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร

               ขณะที่ขอบเขตอ านาจของประธานาธิบดีลดลงลงมาก ส่วนสภาผู้แทนมลรัฐก็ยังคงมีบทบาทในฐานะตัวแทนของมล
               รัฐที่เป็นอิสระต่อกันภายใต้ความเป็นหนึ่งของสหพันธรัฐ การท างานของสภาผู้แทนมลรัฐจึงเป็นบทบาทร่วม

               ตรวจสอบในสภามากกว่าที่จะเป็นตัวแทนในการคานอ านาจนิติบัญญัติ นอกจากนี้ ในการจัดการความสัมพันธ์ที่
               เยอรมนีมีต่อองค์การเหนือรัฐอย่างสหภาพยุโรป ก็ถือเป็นหน้าที่ของทั้งสภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนมลรัฐ
               ตลอดจนคณะกรรมาธิการที่สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้แต่งตั้งเพื่อดูแลความสัมพันธ์ ซึ่งกรณีนี้ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึง

               อ านาจน าของสภาผู้แทนราษฎรที่มีบทบาทน าในการก าหนดแนวทางจัดการความสัมพันธ์ที่มีต่อกลุ่มประเทศ
               สมาชิกสหภาพยุโรปอีกด้วย


                       3.4 ออสเตรีย


                       พัฒนาการทางประวัติศาสตร์

                       ออสเตรียเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาของประเทศที่มีพัฒนาการทางการเมืองที่มีความผันผวนสูง ตั้งแต่ยุค

               ระบบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮับสบวร์ก (Habsburg) ในช่วงศตวรรษที่ 16 จน
               ผ่านสงครามระหว่างออสเตรียกับปรัสเซีย (Austro-Prussian War) ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ต่อมาภายหลัง

               สงครามโลกครั้งที่ 1 ออสเตรียกลายเป็นสาธารณรัฐ ก่อนที่ต่อมาจะถูกยึดครองโดยเยอรมนีภายใต้การปกครอง
               ของพรรคนาซี เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ออสเตรียได้กลายเป็นสาธารณรัฐอีกครั้งหนึ่ง

                       จากการสืบค้นงานวิชาการที่ศึกษาระบบรัฐสภาในยุคภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮับส์บวร์กนั้นยังมี
               ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุปลักษณะหรืออธิบายความสัมพันธ์เชิงอ านาจในระบบรัฐสภาของออสเตรีย ตัวอย่างงาน
               ชิ้นหนึ่งที่อาจจะท าให้พอเห็นภาพได้คืองาน  งานของ Ableitinger (1966) ที่ศึกษาการท างานของรัฐบาลของ

               เคานต์ Kasimir Felix Badeni ในช่วง ค.ศ. 1900 ซึ่งได้สะท้อนภาพการเมืองของออสเตรียในช่วงเวลานั้นได้ 2
               ประการ ได้แก่

                       1)  สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถท างานร่วมกับรัฐบาลของกษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิ์ได้ เนื่องจากหลักการ
                          พื้นฐานของระบบรัฐสภาถูกท าลายจากการที่สภาไม่สามารถคานอ านาจสมบูรณาญาสิทธิ์ อ านาจ

                          รัฐธรรมนูญไม่ได้มีผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63