Page 61 - 23154_Fulltext
P. 61

56


               ระบบรัฐสภาของออสเตรียจึงมีความน่าสนใจในความเป็นการเมืองรวมศูนย์ไว้ที่สภาแห่งชาติ สภาผู้แทนมลรัฐไม่

               สามารถคัดค้านร่างกฎหมายหากแต่เพียงชะลอได้เท่านั้น ทว่าอ านาจของคณะมนตรีแห่งมลรัฐกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยมา
               จนมีอ านาจที่เข้มแข็งในการต่อรอง 2 ประการส าคัญ ได้แก่ ประการแรกคือ คณะมนตรีแห่งมลรัฐสามารถร้องขอ
               รัฐบาลสหพันธ์ในการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจทางการเมืองเกี่ยวกับสหภาพยุโรป ตามมาตรา 50 (1) ของ

               รัฐธรรมนูญออสเตรีย และประการที่สอง รัฐบาลสหพันธ์ต้องชี้แจงข้อมูลแก่คณะมนตรีแห่งมลรัฐในประเด็นการ
               ริเริ่มนโยบายใดกับสหภาพยุโรป เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจึงกล่าวได้ว่า ผู้ว่าการมลรัฐเป็นจักรกลส าคัญหนึ่งที่จะมีส่วน

               ร่วมทางการเมืองเพื่อรักษาความอิสระของมลรัฐตามหลักการสหพันธรัฐ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสภาผู้แทน
               มลรัฐก็ตาม

                       โดยสรุปแล้วพัฒนาการของระบบรัฐสภาของออสเตรียประกอบด้วย 4 ยุคส าคัญ ได้แก่
                       1)  ยุคระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ภายใต้ราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ระบบรัฐสภาในช่วงแรกยังไม่เป็นสถาบัน

                          การเมืองที่สามารถท างานได้อิสระตามความต้องการของประชาชน หากแต่ถูกอ านาจฝ่ายสถาปนา
                          เป็นผู้ก าหนดความสัมพันธ์การเมืองในการก าหนดนโยบายและกฎหมาย

                       2)  หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 มีผลท าให้ให้ออสเตรียกลายเป็นสาธารณรัฐสหพันธรัฐ โดยมีรัฐธรรมนูญ
                          ค.ศ. 1920 เป็นปัจจัยส าคัญในการควบคุมสถาบันการเมืองให้รวมศูนย์อ านาจไว้ที่ระบบรัฐสภาโดยมี

                          สภาแห่งชาติเป็นหลักในการออกกฎหมาย และมีสภาผู้แทนมลรัฐช่วยได้เพียงตรวจสอบร่างกฎหมาย
                       3)  ยุคระบอบฟาสซิสต์ออสเตรีย ภายหลังถูกเยอรมนียึดครอง รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1934 ได้ลดบทบาท
                          รัฐบาลให้จ ากัดการบริหารจนเหลือเพียงพื้นที่นิติบัญญัติ

                       4)  หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ออสเตรียกลับมาใช้รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1920 ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งได้
                          ก าหนดความสัมพันธ์เชิงอ านาจของระบบรัฐสภาใหม่ภายใต้หลักการสหพันธรัฐ โดยมีอ านาจเข้มแข็ง

                          อยู่ที่สภาแห่งชาติ ประกอบกับการเมืองของออสเตรียเป็นแบบพรรคใหญ่มาตลอด การตั้งรัฐบาลร่วม
                          ระหว่างพรรคใหญ่จึงยิ่งช่วยให้ผ่านกฎหมายได้โดยง่าย ขณะที่สภาผู้แทนมลรัฐแม้จะเป็นการ
                          สนับสนุนความอิสระของท้องถิ่นด้วยการก าหนดที่มาให้มาจากตัวแทนที่รัฐบาลมลรัฐเลือกตั้งมา ทว่า

                          สภาผู้แทนมลรัฐก็มีอ านาจเพียงชะลอการผ่านกฎหมาย แต่สิ่งที่กล่าวได้ว่าเป็นหลักประกันความเป็น
                          อิสระของมลรัฐภายใต้หลักความเป็นสหพันธรัฐในการมีส่วนร่วมกับระบบรัฐสภา จึงเป็นบทบาทของ

                          การเมืองภูมิภาคอย่างรัฐบาลมลรัฐในการเลือกตัวแทนไปท าหน้าที่สภาผู้แทนมลรัฐ หรือผู้ว่าการมล
                          รัฐที่สามารถต่อรองกับรัฐบาลสหพันธ์ได้ด้วยการขอมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงในประเด็น

                          เกี่ยวข้องกับสหภาพยุโรป เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์แห่งมลรัฐได้อีกด้วย


                       โครงสร้างและอ านาจหน้าที่ของรัฐสภา: มิติความสัมพันธ์เชิงอ านาจ

                       โครงสร้างและอ านาจหน้าที่ของรัฐสภาออสเตรียถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1920 (แก้ไขเพิ่มเติม

               ค.ศ. 2009) รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวจะให้ความส าคัญกับความเป็นสาธารณรัฐที่ให้ความเป็นอิสระแก่การปกครอง
               ตัวเองของมลรัฐ ขณะที่อ านาจนิติบัญญัติของสหพันธรัฐจะท างานในรูปแบบของระบบสภาคู่ ประกอบด้วย สภา
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66