Page 12 - 22816_Fulltext
P. 12
ฌ
ในทุกสถาบัน โดยอาจเริ่มจากพัฒนาผู้บริหาร ผู้สอน และให้ผู้สอนผลักดันสู่นักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษา
ของตนเองต่อไป
2) การนำรูปแบบการสร้างสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษา ไปประยุกต์ด้วยการอบรมผู้บริหาร
คณาจารย์ในสถานศึกษานำร่อง เพื่อให้เกิดสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษาอย่างยั่งยืนทำได้หลากหลายวิธี
ทั้งโดยการปรับปรุงหลักสูตร การทำโครงการ กิจกรรมที่ต่อเนื่อง สถาบันการศึกษาต่าง ๆ จึงควรมีทั้ง
กลไก และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เกี่ยวข้องควบคู่กันไป ไม่สามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดย
ละเลยอีกสิ่งหนึ่งได้ หากมีแต่กลไกคณะกรรมการ แต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ก็จะไม่เกิด
ประสิทธิผลสูงสุดในการขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรม
3) จากข้อค้นพบว่าการพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมในการสร้างสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษานำร่อง
ด้วย Tuna Act Model มาจากการปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านและมีกระบวนการ
ที่เหมาะสม ดังนั้น สถาบันพระปกเกล้าและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องควรมีการปรึกษาหารือกัน
อย่างสม่ำเสมอ และมีผู้มีส่วนได้เสียเข้ามาอย่างครบถ้วน รอบด้าน เพื่อให้ได้สิ่งที่เกิดประโยชน์สูงสุด
ในการขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรม
4.2 ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป
สำหรับประเด็นในการวิจัยครั้งต่อไปควรทำวิจัยในประเด็นเกี่ยวกับ
1) การศึกษาระบบกลไกการติดตามผลความสำเร็จจากการขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรมใน
สถานศึกษาทั้ง 3 ระดับ 19 แห่ง
2) ขยายพื้นที่ในการทำวิจัยให้มากกว่าเดิม และพัฒนาเป็นนโยบายสันติวัฒนธรรมเพื่อเป็น
วาระแห่งชาติต่อไป