Page 11 - 22816_Fulltext
P. 11
ซ
มีความเข้าใจและมีความรู้ในด้านสันติวัฒนธรรมมากขึ้นหลังจากได้รับการอบรม ผลจากการตอบ
แบบสอบถามสามารถตอบได้มากกว่าก่อนการอบรม แสดงให้เห็นถึงการเข้าใจที่ถูกต้องเกือบเท่าตัว
ในทุกคำถาม นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการอบรมยังมีทัศนคติในทิศทางเชิงบวกต่อการปฏิเสธความรุนแรง
ในทุกระดับ
นอกจากข้อสรุปที่ได้ในประเด็นสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดสันติ สภาพแวดล้อม
ที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และแนวทางการแก้ไขปัญหา สิ่งที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ของการขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษา พิจารณาได้จากกลไกในการขับเคลื่อน โครงการ
กิจกรรมต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง คือ
1. คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสันติวัฒนธรรมทั้งสามสถาบัน มีกลไกและผู้รับผิดชอบ
ที่ชัดเจน คำสั่งดังกล่าวเป็นการลงนามโดยผู้บริหารแสดงถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจในการผลักดันในเกิด
สันติวัฒนธรรมทั้งสามสถาบัน
2. โครงการและกิจกรรมในการตอบสนองต่องานด้านสันติวัฒนธรรมที่คิดและผลักดัน
ร่วมกันโดยบุคลกรในสถาบัน โดยมีสถาบันพระปกเกล้าร่วมสนับสนุนงบประมาณสถาบันละไม่เกิน
5 พันบาท งบประมาณดังกล่าวไม่ได้เป็นเงินจำนวนมาก โครงการที่เกิดขึ้นได้จึงมาจากการร่วมแรง
ร่วมใจกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง โครงการที่นักเรียน นักศึกษา ร่วมกันคิดขึ้นมา เช่น
2.1 โครงการลดการบูลลี่เรื่องความสวยหรือหน้าตาหรือการใช้คำพูด
2.2 โครงการลดความรุนแรงด้วยการรณรงค์และการอบรมผ่านกิจกรรม
ให้รุ่นน้อง และรณรงค์ให้ลดความรุนแรง
2.3 โครงการกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแผนก
2.4 โครงการจิตอาสาบริการชุมชน เช่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์
ทำระบบไฟฟ้า และโครงการจิตอาสาบริการในมหาวิทยาลัย
2.5 โครงการส่งเสริมความเท่าเทียมและการยอมรับเพศทางเลือก
4. ข้อเสนอแนะ
จากผลการวิจัย ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
4.1 ข้อเสนอแนะจากการวิจัย
1) คณะรัฐมนตรี/ผู้กำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อาจพิจารณาผลักดันเรื่องสันติวัฒนธรรม
ให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาในทุกระดับทั้งระดับมหาวิทยาลัย มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และประถมศึกษา
โดยตั้งกลไกให้มีผู้รับผิดชอบงานดังกล่าว อาจเป็นในรูปแบบของ คณะกรรมการ คณะทำงานส่งเสริม
สันติวัฒนธรรม และจัดให้มีการฝึกอบรม มีการเรียนการสอนที่สอดแทรกหลักสูตรด้านสันติวัฒนธรรม