Page 105 - 22816_Fulltext
P. 105
82
2. การแบ่งพรรคแบ่งพวก
3. กฎระเบียบที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล /ยืดหยุ่น / รับฟัง
4. ไม่รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
5. การบูลลี่ในสถานศึกษา
6. ความแตกต่างของวัยทำให้ความคิดต่างกัน
7. คู่ขัดแย้ง – บุคลากร – บุคลากร / นักเรียน – นักศึกษาต่างสถาบัน ต่างแผนก
บุคลากร – นักศึกษา / บุคลากร – บุคลากรภายนอก
8. ลักษณะความขัดแย้ง – อำนาจการบริหาร – การโต้แย้ง- การทำร้ายร่างกาย
(2) แผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรม
การขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา ได้จัดทำแผนปฏิบัติการแบบ
มีส่วนร่วม โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่มตามระดับการศึกษา คือ กลุ่มระดับประถมศึกษา/มัธยม
กลุ่มอาชีวศึกษา และกลุ่มอุดมศึกษา สรุปได้ว่า
1. นำเสนอผู้บริหารสถานศึกษา
2. ประชุมฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
3. จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน
4. ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ขยายความรู้สู่คณาจารย์และบุคลากร จัดทำคู่มือ
5. ประเมินโครงการ รายงานผลสรุปโครงการ
6. ติดตาม
7. รูปธรรมที่ได้ เช่น เกิดชมรมสันติวัฒนธรรม ตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ย ขับเคลื่อน
แผนพัฒนาศูนย์ไกล่เกลี่ย
ภายหลังจากอบรมเสร็จสิ้น เกิดความยั่งยืนในระดับหนึ่ง ด้วยการจัดทำคำสั่งตั้ง
คณะกรรมการ/คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก สมุทรปราการ และโรงเรียน
เร๊าะห์มานีย๊ะห์ จังหวัดสงขลา โดยมีทั้งคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อน
ให้เกิดสันติวัฒนธรรมขึ้นในสถานศึกษา โดยมีโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการรณรงค์ส่งเสริม
ความเสมอภาคทางเพศ รณรงค์เรื่องการลดความรุนแรงจากการทะเลาะวิวาท การแข่งกีฬา
เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแผนก งานบริการชุมชนรอบสถานศึกษา จิตอาสาในสถานศึกษา
การรณณรงค์ลดการบูลลี่ (Bully) หรือการกลั่นแกล้งที่แสดงออกด้วยคำพูด หรือพฤติกรรมที่ก้าวร้าว
ต่อผู้อื่น นอกจากนี้ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในสังคมพหุวัฒนธรรม โดยทางโรงเรียนสันติธรรมวิทยา
ได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวไปขับเคลื่อน แลกเปลี่ยนกับเครือข่ายต่างศาสนาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์