Page 44 - 22665_Fulltext
P. 44

27


                                  อย่างไร? อะไรคือแหล่งอ านาจ(รวมถึงบุคคล)ที่จะช่วยในการสร้างสันติภาพ? อะไรคือ
                       ทรัพยากรที่จะช่วยในการสร้างสันติภาพ? เครือข่ายใดที่เรามีในการสร้างสันติภาพ?


                                  เมื่อใด? นานแค่ไหนในการประเมินความขัดแย้งเสร็จสิ้น? ศักยภาพของเรามีมากน้อย
                       เพียงใด? เมื่อใดความขัดแย้งจะได้รับการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง?


                                  ภายหลังจากที่เราได้วิเคราะห์โดยเริ่มต้นประเมินตนเองแล้ว เราสามารถวิเคราะห์
                       องค์ประกอบของความขัดแย้งได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ความขัดแย้งไม่จ าเป็นต้อง

                       เรียงล าดับตามก่อนหลัง เราสามารถที่จะวิเคราะห์ความขัดแย้งในหัวข้อใดก่อนหลังได้ตามความ

                       เหมาะสม ในประเด็น

                                  1) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) กับคู่กรณี (Party)

                                  2) ประเด็นขัดแย้ง (Issues in conflict) ไม่ว่าจะเป็นประเด็นผลประโยชน์ (Issues

                       of Interests) และประเด็นคุณค่า (Issues of Value)

                                  3) ประเภท/เหตุปัจจัยของความขัดแย้ง มีหลากหลายปัจจัยและแบ่งปัจจัยได้หลาย

                       แบบ

                                  4) มุมมอง (Perception) และทัศนคติระหว่างกัน มุมมองและทัศนคติระหว่างกัน

                       สามารถเป็นได้ทั้งมุมมองด้านบวกและมุมมองด้านลบ แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มว่าคู่กรณี

                       มักจะมีมุมมองด้านลบต่อคู่กรณีและเป็นมุมมองแบบประทับตรา (Stereotypes) ซึ่งท าให้เกิดการ
                       แบ่งแยกเป็นพวกเขาพวกเราอย่างชัดเจน

                                  5) ความสัมพันธ์ (Relationship) และความไว้วางใจ (Trust) ระหว่างกัน ถ้า

                       ความสัมพันธ์ระหว่างคู่กรณีดี ปัญหาความขัดแย้งมักจะไม่ค่อยเกิดขึ้น และหรือเมื่อเกิดขึ้นแล้วการ

                       แก้ปัญหาก็จะท าได้ง่ายกว่า หากความสัมพันธ์ไม่ดีก็จ าเป็นต้องฟื้นความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่ และ
                       ความสัมพันธ์จะดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่ความไว้วางใจหรือความไม่ไว้วางใจ

                                  6) พฤติกรรมที่กระท าต่อกัน/พลวัตของความขัดแย้งพฤติกรรมความขัดแย้ง ซึ่งไม่ได้

                       หมายถึงความรุนแรงทางกายภาพเท่านั้น รวมถึงการข่มขู่ การตักเตือน การโน้มน้าวชักจูง การบังคับ

                       และการให้รางวัล ความขัดแย้งมีพลวัตทั้งการขยายและลดความขัดแย้งลงไป

                                  7) อ านาจ (Power) การจะเข้าใจและวิเคราะห์ความขัดแย้งได้อย่างถูกต้องมากขึ้น

                       จ าเป็นอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ถึงมิติเรื่องอ านาจ (Boulding, 1999, p. 20) อธิบายถึงอ านาจว่าแบ่ง
                       ได้เป็น 3 แบบ คือ อ านาจบังคับ (Threat Power) อ านาจจากการแลกเปลี่ยน (Exchange Power)

                       และอ านาจร่วม (Integrative Power) อ านาจบังคับเป็นอ านาจที่เกิดจากการบีบบังคับ การสั่งให้ท า

                       ตาม เช่น ให้ท าตามสิ่งที่เราต้องการ อ านาจแลกเปลี่ยน เป็นอ านาจจากการต่อรอง เช่น ถ้าคุณท าสิ่งที่
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49