Page 67 - รายงานฉบับสมบูรณ์
P. 67
บทที่ 6
วิเคราะห์ปัญหาและข้อเสนอแนะ
สุดท้ายแล้ว การยุบพรรคการเมืองในกฎหมายไทย สามารถธ ารงรักษาประชาธิปไตยไว้ได้หรือไม่
การรัฐประหารวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 น่าจะเป็นค าตอบได้อย่างดีว่าประชาธิปไตยของไทยยังไม่มั่นคง
คุณภาพของพรรคการเมืองยังต้องถูกพัฒนาขึ้นไปอีก เพื่อเป็นค าตอบที่แน่นอนให้กับสังคมไทย และสังคมไทย
ไม่หวนกลับไปเลือกทางเลือกรัฐประหาร ซึ่งเป็นระบอบที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่าง
ร้ายแรงอีก
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สถานการณ์การยุบพรรคการเมืองในไทยอาจจะไม่เลวร้ายเท่ากัมพูชาหรือ
ฮ่องกง ซึ่งเกิดขึ้นในระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง เห็นได้ชัดว่าการยุบพรรคในบางกรณีนั้น
เป็นอาวุธทางการเมืองเพื่อจัดการกับศัตรูของรัฐบาล แต่สถานการณ์ของไทยก็ไม่ได้ถูกยอมรับว่าเป็นไป
ตามหลักการประชาธิปไตยป้องกันตนเองอย่างสากล เช่น เยอรมนีหรือสเปน
สถานการณ์การยุบพรรคการเมืองไทยจึงใกล้เคียงกับตุรกี ซึ่งกลายเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ ในระบอบ
กึ่งประชาธิปไตย และส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็งโดยรวมของระบบพรรคการเมือง แต่ละคดีที่ยุบพรรคนั้น
ถูกวิจารณ์ในเรื่องของเหตุผลและกระบวนการ
ดูเหมือนว่าประเทศไทยละเลยค าเตือนเกี่ยวกับอันตรายของประชาธิปไตยป้องกันตนเอง มาตรการ
ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อถูกใช้อย่างไม่ระมัดระวังก็ย่อมกลายเป็นเครื่องมือท าลายประชาธิปไตยเองได้ในที่สุด
ค าถามคือ เราจะแก้ไขปัญหาความบกพร่องของการยุบพรรคการเมืองในกฎหมายไทยได้อย่างไร
6.1 ปัญหาของการยุบพรรคการเมืองไทย
ก่อนอื่น บทที่ 5 นี้จะวิเคราะห์ปัญหาจากการยุบพรรคการเมืองของไทยในบทที่ 4 และบทที่ 5 ผ่าน
เกณฑ์ที่แสดงไว้ในบทที่ 3 ทั้งสี่เกณฑ์
(1) กฎหมาย
เราอาจเถียงได้ว่ากฎหมายว่าด้วยการยุบพรรคของไทยไม่ได้มุ่งหมายเจาะจงจะใช้กับพรรคใด
พรรคหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา จะเห็นว่าบทบัญญัติที่ระบุเหตุเกี่ยวกับการยุบพรรค
การเมืองนั้น ขยายกว้างขวางขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
พ.ศ.2550 และ 2561 นั้น เหตุแห่งการยุบพรรคเพิ่มมากขึ้นทุกที และลงไปในการกระท าปลีกย่อย ซึ่งกระจัด
กระจายอยู่ทั่วไปหมด จนยากจะท าความเข้าใจได้ครบถ้วน
~ 64 ~