Page 17 - รายงานฉบับสมบูรณ์

วิกฤติเศรษฐกิจและประชาธิปไตยที่ประนีประนอมเปิดโอกาสให้ลัทธิฟาสซิสม์เติบโตขึ้นมาได้ โดยลัทธินี้

เน้นการปลุกเร้าอารมณ์มวลชนมากกว่าการใช้เหตุผล เพื่อให้มวลชนเบื่อหน่ายนักการเมือง และแสวงหาผู้น า
อ านาจนิยมว่าเป็นสิ่งพึงปรารถนา จากนั้นการจัดตั้งองค์กรย่อยในระดับภูมิภาค การก่อความไม่สงบเล็ก ๆ น้อย ๆ

พลางกระตุ้นให้มวลชนเพ่งความสนใจไปที่ความวุ่นวายเหล่านี้ ช่วยปลุกเร้าความไม่พอใจต่อประชาธิปไตย
19
ในมวลชนให้สูงขึ้น จนสนับสนุนสงครามกลางเมืองหรือกบฏ

Loewenstein เขียนสิ่งเหล่านี้ขึ้นจากการสังเกตการณ์ด้วยตัวเขาเอง เขาวิพากษ์รัฐบาลและ
รัฐธรรมนูญไวมาร์ว่า งมงายอยู่กับประชาธิปไตยและนิติธรรมเชิงรูปแบบอย่างบอดเขลา จนเกิดการเถลิง

อ านาจของฮิตเลอร์ แต่ Loewenstein ยังเขียนเรื่องนี้โดยคิดถึงอิตาลี และแม้แต่โซเวียตรัสเซียก็ด้วย

หลักฐานหนึ่งที่ยืนยันข้อเสนอของ Loewenstein คือ ค ากล่าวของ Joseph Goebbels โฆษกของพรรคนาซีเอง
ว่าเรื่องนี้ (การเถลิงอ านาจของพรรคนาซีโดยถูกต้องตามกฎหมาย) เป็นเรื่องตลกขบขันที่สุดของประชาธิปไตย

ที่หยิบยื่นอาวุธให้ท าลายล้างตัวมันเอง (it will always remain one of the best jokes of democracy
20
that it provided its mortal enemies itself with the means through which it was annihilated.)

ข้อสรุปของ Loewenstein คือ ประชาธิปไตยต้องไม่เฉยชากับภัยคุกคามเหล่านี้ ประชาธิปไตยต้อง
สามารถป้องกันตัวเองได้

อะไรคือกลไกป้องกันตนเองของประชาธิปไตย Loewenstein ระบุว่า การสู้กับไฟ ต้องใช้ไฟสู้เท่านั้น
(fire should only be fought with fire) การสู้กับอ านาจนิยม ต้องเปลี่ยนวิธีคิดของประชาธิปไตย เป็น

ประชาธิปไตยอ านาจนิยม ขันติธรรมแบบไร้ขีดจ ากัดใช้ไม่ได้อีกต่อไป Loewenstein เสนอให้บรรดาชนชั้นน า

ที่ยังเชื่อมั่นในประชาธิปไตยจ ากัดอ านาจประชาชน ตั้งแต่การจ ากัดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพใน
21
การชุมนุม การยุบพรรคการเมือง หรือแม้แต่จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อสอดส่องกิจกรรมการเมือง จะเห็นว่า
กลไกต่าง ๆ ที่เสนอมานั้นกระทบสิทธิเสรีภาพโดยตรง และมีลักษณะคล้ายคลึงกับรัฐบาลอ านาจนิยมเอง แต่
Loewenstein ยืนยันว่าการใช้อ านาจดังกล่าวเป็นไปเพื่อปกป้อง มิใช่ท าลายประชาธิปไตย

ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่ Loewenstein เผยแพร่งานของเขา นักกฎหมายรัฐธรรมนูญชาวดัทช์
ชื่อ Van de Bergh ก็ได้น าเสนองานใกล้เคียงกัน งานของ Van de Bergh ช่วยเพิ่มเติมให้แนวคิดประชาธิปไตย

ป้องกันตนเองสมบูรณ์ยิ่งขึ้น Ven de Bergh เสนอว่า หลักการพื้นฐานของประชาธิปไตย คือ ความเสมอภาค
ของความคิด (equality of ideas) ซึ่งมองว่าความคิดทุกความคิดเท่าเทียมกัน ไม่มีดีหรือแย่นั้น ไม่อาจใช้ได้จริง

ความเสมอภาคกันของความคิดเป็นพื้นฐานของการให้สิทธิเสรีภาพประชาชนในการแสดงออก และ
การเลือกตั้ง โดยให้ผู้ที่เชื่อความคิดต่างกันมาแข่งขันกันในสนามเลือกตั้งอย่างสันติสุข ค าถามคือ ท าไมบางความคิด

เช่น แนวคิดสนับสนุนอ านาจนิยม จึงควรถูกกีดกัน

19 Id, 233.
20 Muller, Militant Democracy 1254.
21 Id, 1258.

~ 14 ~