Page 16 - รายงานฉบับสมบูรณ์
P. 16
บางพรรคฉวยโอกาสจากเสรีภาพทางการเมืองที่ประชาธิปไตยมอบให้ เพื่อเผยแพร่อุดมการณ์อ านาจนิยม
ต่อต้านประชาธิปไตยเอง ดังตัวอย่างที่รู้จักกันดี เช่น พรรคการเมืองฟาสซิสต์สในยุโรปช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
2.2 ประชาธิปไตยป้องกันตนเอง
หนึ่งในหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย คือ การยึดมั่นในพหุนิยมทางการเมือง (political
pluralism) ประชาธิปไตยต้องยอมรับความคิดเห็นอันแตกต่างหลากหลาย แต่ในขณะเดียวกัน แนวคิดบางแนวคิด
เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตย เช่น แนวคิดส่งเสริมชาตินิยมแบบสุดโต่ง ไม่ยอมรับหลักความเสมอภาค
เหยียดเชื้อชาติ ปฏิเสธศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่รับฟังความเห็นต่าง หากปล่อยให้ความคิดเหล่านี้แพร่หลาย
ออกไปแล้วจะกลายเป็นอาวุธที่ฆ่าระบอบประชาธิปไตยเอง
แนวคิดเรื่องประชาธิปไตยป้องกันตนเองช่วยตอบค าถามถึงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจดังกล่าว
ประชาธิปไตยป้องกันตนเองยืนยันว่า ประชาธิปไตยไม่จ าเป็นต้องฆ่าตัวตาย ประชาธิปไตยสามารถป้องกัน
ตัวเองจากผู้ไม่หวังดีได้ และการกระท าดังกล่าวยังอยู่ภายในกรอบของประชาธิปไตยด้วย
แนวคิดประชาธิปไตยป้องกันตนเอง (militant democracy/defensive democracy/fighting
democracy) เป็นที่รู้จักครั้งแรกช่วง ค.ศ. 1930 แต่วิธีคิดเรื่องการป้องกันตนเองนั้นอาจย้อนกลับไปได้ไกลถึง
ช่วงหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส Louis de Saint-Just ยืนยันความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรง ว่าไม่มีเสรีภาพ
16
เสนอให้กับศัตรูของเสรีภาพ (There is no liberty for the enemies of liberty)
ผู้ที่ริเริ่มใช้ค าว่า militant democracy จนเป็นที่แพร่หลาย คือ นักรัฐศาสตร์ชาวเยอรมัน นาม Karl
Loewenstein ผู้ใช้ชีวิตอยู่ระหว่างห้วงสงครามโลกทั้งสองครั้งในยุโรป Loewenstein จึงได้เป็นประจักษ์
พยานการเถลิงอ านาจของพรรคสังคมนิยมชาตินิยม หรือพรรคนาซี และการล่มสลายของประชาธิปไตยใน
ยุโรปโดยรวม Loewenstein ตระหนักถึงภัยที่จะเกิดขึ้นจึงหลบหนีไปสหรัฐอเมริกา และในปี ค.ศ. 1935 - 1937
17
เขียนบทความขนาดยาวสองชิ้นต่อกันเพื่ออธิบายหลักการ militant democracy
แรกสุด Loewenstein วินิจฉัยจุดอ่อนของประชาธิปไตยแบบตั้งรับ (defensive democracy) ว่า
ประชาธิปไตยนั้นมุ่งเน้นแสวงหาการประนีประนอมระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งการประนีประนอมนั้น
เป็นสิ่งที่ดีในสถานการณ์ปกติ แต่ยุโรปในขณะนั้นตกอยู่ภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจ จ าเป็นต้องการการน าที่เด็ดขาด
18
จากส่วนกลางมากกว่าระบบรัฐบาลที่เฉยชาและปล่อยให้กลไกการเมืองและราชการท างานไปเรื่อย ๆ
16 Jan-Werner Muller, ‘Militant Democracy’ in Michel Rosenfeld & Andras Sajo (eds) The Oxford Handbook of Comparative
Constitutional Law (Oxford University Press 2012) 1253.
17 Karl Loewenstein, ‘Militant Democracy and Fundamental Rights, I, II’ in Andras Sajo (ed), Militant Democracy (Eleven
International Publishing 2004), 231-262.
18 Paul Cliteur & Bastiaan Rijpkema, ‘The Foundation of Militant Democracy’ in Afshin Ellian & Gelijn Molier (eds) The State
of Exception and Militant Democracy in a Time of Terror (Republic of Letters 2012) 232-233.
~ 13 ~