Page 43 - 22353_Fulltext
P. 43

ต้องจับตามอง สิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือความรุนแรงอันเนื่องมาจากสภาพภัยธรรมชาติหรือเศรษฐกิจนั้น

               อาจเสริมแรงให้การเลือกตั้งสิ้นสุดลงที่ความขัดแย้งได้ และอาจทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าความรุนแรง

               ดังกล่าวเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจสังคมหรือว่าปัญหาการเมือง

                       ด้านกลุ่มงานที่มองว่าการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นปรากฏการณ์ของการต่อสู้ทางวัฒนธรรมประเภทหนึ่ง

               มีอาทิ งานของวิภาวดี พันธุ์ยางน้อย ในบทความเรื่อง “ภูมิทัศน์ทางการเมืองของสังคมชนบทสมัยใหม่:ว่าด้วย

               การพัฒนา ความเหลื่อมล้ำ การเลือกตั้ง และวาทกรรมการซื้อสิทธิขายเสียง” (2556 หน้า 95-137) ที่พยายาม

               ชี้ให้เห็นถึงความลำบากของคนชนบทที่ขาดการคุ้มครองจากระบบประกันสังคม สวัสดิการด้านเศรษฐกิจ และ

               ขาดแหล่งทุนรองรับความผันผวนของระบบตลาด การที่คนชนบทเลือกพรรคการเมืองที่นำโดยทักษิณ ชินวัตร

               นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่เคยได้รับนโยบายที่เชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ของพวกเขามาก่อนกระทั่งยุคของ

               ทักษิณ สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาพร้อมที่จะลงคะแนนให้กับพรรคที่นำโดยทักษิณ ทว่าด้วยนโยบายที่เป็นประชา
               นิยมที่ทักษิณดำเนินการและเป็นหนึ่งในการหาเสียงกลับทำให้คะแนนเสียงของคนเหล่านี้ถูกลดทอนความชอบ

               ธรรมลงด้วยวาทกรรมการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งๆที่การลงคะแนนเสียงของพวกเขานับเป็นหนึ่งในวิธีการต่อรอง

               ทางอำนาจของคนชนบทเท่าที่พวกเขาจะมีโอกาสทำได้


                       งานของ ชัยพงษ์ สำเนียง เรื่อง “การซื้อสิทธิขายเสียงในฐานะการเมืองของการต่อรองอัตลักษณ์”

               (2561 หน้า 1-48) นับเป็นงานอีกชิ้นหนึ่งที่พยายามชี้ให้เห็นว่าการซื้อสิทธิขายเสียงนั้นเป็นการต่อสู้กลับของ
               ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสหรือพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น น้อยนักที่ผู้มีอำนาจจะรับฟัง

               เสียงประชาชน ด้วยเหตุนี้ เมื่อถึงฤดูกาลเลือกตั้ง การเลือกตั้งจึงนับเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ประชาชนจะ

               ใช้เพื่อ “เปิดพื้นที่” สร้างสายสัมพันธ์ใหม่กับรัฐ ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ใช่กลุ่มคนที่ไร้

               ความสามารถในการตรึกตรองขบคิดกับตัวผู้สมัครหรือนโยบาย งานชิ้นนี้จึงตีความให้ “การซื้อสิทธิขายเสียง”

               นั้นเป็นมายาคติ ที่แท้จริงแล้วมีเงื่อนไขที่ซับซ้อนอย่างมากไม่ใช่เพียงการได้รับเงินทองเพื่อแลกกับคะแนนเสียง

               อย่างตรงไปตรงมา แต่มีความซับซ้อนและมีปัจจัยเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
               ผลประโยชน์ส่วนตัว (individual benefits) ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวซึ่งอาจไม่ใช่ตัวเงินเพียงอย่างเดียว

               รวมไปถึงความสม่ำเสมอของผู้สมัครในการปฏิบัติกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรียกว่า “เบี้ยขยัน” ด้วย

               นอกจากนั้นยังรวมไปถึงปัจจัยทางด้านวัฒนธรมทั้งความสัมพันธ์ทางครอบครัว เครือญาติ ที่จะเป็นกลไกกำกับ

               การตัดสินใจไปพร้อมกันไม่ใช่เพียงตัวเงินหรือผลประโยชน์อย่างตรงไปตรงมา การซื้อเสียงเพียงอย่างเดียว

               นับเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเพียงเล็กน้อยเพราะต้องประกอบกับปัจจัยอื่นๆอีกในการที่ผู้คนจะตัดสินใจเลือกตั้ง


                       จากข้างต้น จะเห็นได้ว่า ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
               กรณีของประเทศเคนยาเองก็ชี้ให้เห็นว่าการซื้อเสียงเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเช่นกัน ในแง่นี้

               อาจมองได้ว่าการซื้อสิทธิขายเสียงอาจเป็นปรากฏการณ์ที่ย่อมมาพร้อมกับการเลือกตั้งสมัยใหม่ก็เป็นได้ และ





                                                                                                       42
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48