Page 30 - 22353_Fulltext
P. 30
ผู้เข้าร่วมเวทีมารับฟังและสร้างความเข้าใจก่อนเริ่มต้นเวทีประชาเสวนาก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่สามารถกระทำ
ได้เช่น อาจใช้ช่วงเวลาตอนบ่ายของหนึ่งวันก่อนหน้าวันจัดเวทีเสวนาเพื่อทำความเข้าใจกระบวนการและ
ถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ผู้เข้าร่วมเวทีได้รับทราบก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่เวทีเสวนาจริงๆในวันรุ่งขึ้น เป็นต้น
อนึ่ง มีข้อพึงสังเกตุที่ผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาพึงตระหนักไว้ด้วย นั่นก็คือ “การเลือก” ซึ่งผู้วิจัยเห็นว่า
ข้อคิดที่ ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ (2557 หน้า 62) ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับการเลือกนั้นน่าสนใจและอาจนำมากล่าว
เสริมไว้ได้ในเวทีสานเสวนาหาทางออก โดยเมื่อกล่าวถึงการตัดสินใจเลือก ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ ได้เตือนไว้
ว่าการตัดสินใจเลือกนั้นไม่ใช่การเลือกจากความชอบว่า “เราชอบอะไรมากกว่ากัน” คนส่วนมากมักชอบคิดว่า
การตัดสินใจเลือกเป็นเรื่องจากความชอบความพึงใจ แต่ว่าแท้จริงแล้วการเลือกนโยบายหรือทางออกเพื่อแก้ไข
ปัญหาหนึ่งๆนั้นแตกต่างจากการเลือกซื้อสินค้าเพราะผลที่ตามมามีความยิ่งใหญ่กว่าเราต้องคิดให้รอบคอบและ
มองลึกลงไปศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเลือก ซึ่งพิจารณาจากหลักของความเหมาะสม เหตุผลและ
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและส่วนรวมไม่ใช่พิจารณาจากความชอบของตนเป็นหลัก
4.การมอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ก่อนเริ่มการสานเสวนาหาทางออก ผู้เอื้อกระบวนการจำเป็นต้องอธิบายทบทวนถึงกระบวนการโดย
ตลอด ทั้งเป้าหมาย วิธีการ รวมไปถึงเนื้อหาหรือประเด็นหลักที่จะมีการพูดคุยกันในวันนี้ แม้หลักสำคัญของ
การสานเสวนาหาทางออกนั้นจะอยู่ที่ “กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเป็นมิตร” กระนั้น เนื้อหาที่จะ
หารือกันก็มีความสำคัญ ในที่นี้อาจมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่เกี่ยวข้องและทำการศึกษามีหลักฐานข้อมูล
เกี่ยวกับประเด็นที่จะเสวนามากล่าวถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องโดยสังเขป พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการประชุมเสวนาและ
ผู้จัดอาจเตรียมฉากทัศน์ (scenario) ที่มีความเป็นไปได้ไว้หลายๆทางเพื่อช่วยเสริมให้เนื้อหามีความชัดเจน
และช่วยในการทำความเข้าใจของผู้เกี่ยวข้องได้มากขึ้น ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ และ ถวิลวดี บุรีกุล (2555
หน้า 16-18) ได้ชี้ให้เห็นว่า ฉากทัศน์ ที่จัดเตรียมไว้นั้นเป็นเสมือนการยกร่างตุ๊กตาของทางเลือกและความ
เป็นไปได้ในสถานการณ์ต่างๆขึ้นมาโดยมุ่งมองไปที่อนาคต เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเสวนาได้พิจารณาร่วมกัน แต่ไม่ได้
หมายความว่าให้ผู้เข้าร่วมเสวนา “เลือก” ฉากทัศน์ที่กำหนดไว้นั้น เป็นเพียงการช่วยเอื้ออำนวยให้เกิดการคิด
ตรึกตรองถึงหนทางที่อาจเกิดขึ้นเพื่อช่วยในการแสวงหาทางออกที่เป็นไปได้อื่นๆ แน่นอนว่าผู้เข้าร่วมเสวนา
หาทางออกอาจเลือกข้อเสนอมาจากฉากทัศน์ที่ผู้จัดได้ทดลองวาดขึ้นหรืออาจช่วยกันวาดภาพอนาคตที่พวก
เขาอยากเห็นร่วมกันด้วยตนเองก็ได้
โดยส่วนใหญ่ ในเวทีสานเสวนาหาทางออก ผู้จัดมักจะทดลองกำหนดกรอบทางเลือกออกมาอย่างน้อย
3 หรือ 4 ทางเลือก หัวใจคือการพัฒนาทางเลือกคือต้องทำให้มากกว่า 2 ทางเลือก เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการ
หาข้อยุติด้วยการยกมือโหวตกันและหลีกเลี่ยงการแบ่งฝักฝ่ายโดยไม่ตั้งใจ ที่สำคัญผู้อำนวยการประชุมจะต้อง
เน้นย้ำเสมอว่าประเด็นทางเลือกโดยวิธีนี้จะไม่ส่งเสริมการชี้หน้าด่ากัน เพราะการสานเสวนาหาทางออกเป็น
29