Page 23 - 22353_Fulltext
P. 23

ปรึกษาหารือระหว่างกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆด้วยการสานเสวนาหาทางออก (Canadian Institution

               Development Agency: CIDA) ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการบริหารงานด้านสุขภาพซึ่งผู้รับบริการ

               พบกับปัญหางานบริการด้านสุขภาพในประเทศแคนาดาในขณะนั้นสู้ประเทศอื่นไม่ได้ในมุมมองของผู้รับบริการ

               จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีการนำเอากระบวนการประชาเสวนามาปรับใช้เพื่อรับฟังปัญหา
               ของกันและกัน ซึ่งต่อมาได้ข้อสรุปว่าหากต้องการให้บริการดังกล่าวดีกว่าที่เป็นอยู่จำเป็นต้องขึ้นภาษีส่งผลให้

               สามารถยอมความกันได้และเลิกแล้วกันไป ซึ่งการศึกษาดูงานในครั้งนั้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คณะผู้

               ศึกษาดูงานในขณะนั้น นำโดยนายอุทัย พิมพ์ใจชน ในฐานะประธานรัฐสภา และ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะ

               ประธานกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชนประจำวุฒิสภา สนใจนำกระบวนการดังกล่าวมาปรับใช้ใน

               ประเทศไทยเพื่อสร้างให้เกิดการปรึกษาหารือกับประชาชนอย่างแท้จริง จากนั้น สถาบันพระปกเกล้า ก็เล็งเห็น
               ความสำคัญของการสานเสวนาหาทางออกและนำมาปรับใช้กับการดำเนินโครงการและกิจกรรมหลายอย่าง

               ของสถาบัน


                       ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ (2557 หน้า 45) นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและ

               ธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เป็นอีกผู้หนึ่งที่ศึกษาและสนับสนุนกระบวนการสานเสวนาหาทางออกมา

               โดยตลอด กล่าวไว้อย่างเห็นภาพว่า แนวคิดเรื่องการสานเสวนาหาทางออกนั้น เป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย

               แบบปรึกษาหารือ โดยอาจเรียกกระบวนการนั้นว่า “ประชาเสวนา” (citizen dialogue) ว่าเป็นประชาธิปไตย
               แห่งการสานเสวนาหาทางออกก็ได้ และชี้ให้เห็นว่าแท้จริงแล้วกระบวนการนี้เป็นกระบวนการตามธรรมชาติใน

               การแก้ไขปัญหาซึ่งใช้กันมานั้นนับแต่อดีต


                       การสานเสวนาจึงเป็นกระบวนการหนึ่งในการส่งเสริมประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายได้เลือกร่วมกัน ภายใต้

               กระบวนการนี้ประชาชนจะไม่ใช่เพียงแค่ผู้มีส่วนร่วมรับฟัง หรือไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเท่านั้นแต่ประชาชน

               จะมีส่วนร่วมตัดสินใจด้วย โดยพวกเขาจะต้องทำความเข้าใจต่อประเด็นปัญหาและทางเลือกที่หลากหลายและ

               ชั่งน้ำหนักเพื่อตัดสินใจเลือกทางเลือกร่วมกันกับทุกฝ่ายโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนร่วมและต้นทุนที่ทุกฝ่าย
               ยอมรับได้ การสานเสวนาหาทางออกจึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาธิปไตยเป็นไปในอย่างที่มันควร

               จะเป็น


                       ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ (2557 หน้า 60) ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสานเสวนาหาทางออกอีก

               ว่า กระบวนการนี้จะช่วยให้แต่ละฝ่ายได้ช่วยกันพิจารณาข้อเสนออย่างรอบด้านมากขึ้น เพื่อช่วยให้การ

               ตัดสินใจที่จะมีขึ้นเป็นไปอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง ที่สำคัญได้รับการยอมรับจากทุก

               ฝ่าย ดังนั้นการสานเสวนาจึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงการเกิดข้อโต้เถียง การแยกข้างแยกฝ่าย เพราะการกระทำ
               เช่นนั้นอาจส่งผลให้เกิดความพยายามเอาชนะอีกฝ่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การสานเสวนาก็ไม่ใช่การพูดตาม

               มารยาทเพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบๆไปเช่นกัน แต่เป็นการเสวนากันอย่างจริงจังด้วยหลักฐาน เหตุผลและ





                                                                                                       22
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28