Page 18 - 22353_Fulltext
P. 18
ประชาธิปไตยแบบตัวแทนและแบบทางตรง เนื่องจากจะเน้นเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกำหนด
ประเด็นและแนวทางที่พึงปรารถนาร่วมกันด้วย ภายใต้แนวคิดเรื่องประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือนั้น
ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมคิดร่วมกำหนดร่วมตัดสินใจไม่ใช่เพียงเข้าไปมีส่วนร่วมรับฟังหรือเลือกสิ่งที่มีการ
กำหนดไว้แล้วเท่านั้น ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือนั้นเน้นการรับฟังมุมมองที่แตกต่าง ความกังวล และ
ความปรารถนาของประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมกันตัดสินใจกำหนดแนวทางนโยบายต่างๆ
ร่วมกันกับผู้มีอำนาจและผู้แทนของเขา ในแง่นี้ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือโดยทฤษฎีแล้วจึงสามารถตอบ
โจทย์ได้ทั้งเรื่องของคุณภาพและความยั่งยืนของประชาธิปไตย (วันชัย วัฒนศัพท์, 2557 หน้า 105-107)
ในแง่หนึ่งประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือนั้นก็มีความคล้ายคลึงกันกับประชาธิปไตยทางตรงอยู่
บางส่วน เพราะเน้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ทว่าไม่ได้เต็ม
รูปแบบ แต่เป็นเรื่องๆ เป็นครั้งคราว ตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม โจ (วิสุทธิ์ โพธิแท่น, 2550 หน้า 3)
โจชัว โคเฮน (Joshua Cohen) และ จอน เอลสเตอร์ (Jon Elster) มีความเห็นที่คล้ายคลึงกันว่าการปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตยนั้น ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยรูปแบบใดสิ่งที่สำคัญคือการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มี
โอกาสแลกเปลี่ยนและอภิปรายถึงความต้องการ ข้อดี ข้อเสีย ต่อนโยบายต่างๆร่วมกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม
ด้วย เพราะหากถือว่าประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ประชาชนมีอิสระและมีเสรีภาพในการปกป้อง
สิทธิของตนได้ นอกเหนือจากการรับรองสิทธิในการมีส่วนร่วมของพลเมืองแล้ว ควรมีการรับประกันสิทธิ
เสรีภาพในการอภิปรายแลกเปลี่ยนร่วมกันด้วย (วิสุทธิ์ โพธิแท่น, 2550 หน้า 5) ในแง่นี้ผู้วิจัยเข้าใจว่าการ
อภิปรายแลกเปลี่ยนในที่นี้ของอาจารย์วิสุทธิ์ โพธิแท่น นั้นมุ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการตระหนักถึงเสียง
ส่วนน้อย (minority rights) ให้มากขึ้น เพราะการยึดหลักหลักเสียงส่วนมาก (majority rule) ในการปกครอง
นั้นแม้จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถหาข้อยุติได้ในระยะเวลาอันสั้น ทว่าเสียงข้างน้อยกลับมักถูกลืมเลือนไป
ดังนั้น ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือที่เน้นการเปิดพื้นที่รับฟังกลุ่มที่เกี่ยวข้องเป็นประเด็นๆอย่างเหมาะสม
จึงอาจเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพให้แก่ระบอบประชาธิปไตยและสามารถอุดจุดอ่อนของ
ประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่กำลังสร้างความรู้สึกหมางเมินทางการเมืองให้กับประชาชนได้รู้สึกว่าพวกเขา
สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้มากขึ้น
Jennifer L. Eagan (2016) สรุปลักษณะสำคัญของประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือว่าหมายถึง
รูปแบบการปกครองที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและพิจารณาข้อเรียกร้องต่าง ๆ ผ่าน
กระบวนการสนทนา เพื่อให้บรรลุสู่ข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องต่อขั้นตอนการดำเนินการหรือนโยบาย
ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะได้ดีที่สุด จุดเด่นของระบอบนื้คือมุ่งเน้นการแสวงหาข้อตกลงร่วมกันของ
ประชาชนเพื่อสาธารณะประโยชน์ (common good) ไม่ใช่การแสวงหาข้อตกลงอันได้รับอิทธิพลมาจาก
อำนาจรัฐหรือผู้มีอำนาจ ดังนั้น ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือจึงไม่ได้ตั้งอยู่บนการแข่งขันระหว่าง
ผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกัน แต่เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนหลักฐานและมีเหตุผลสนับสนุนมุมมองที่หลากหลาย
17