Page 19 - 22353_Fulltext
P. 19

และเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก เพื่อให้ในท้ายที่สุดประชาชนจะได้รับทราบข้อมูลอย่างรอบ

               ด้าน ที่จะนำไปสู่การขบคิดมิติต่างๆซึ่งมากไปกว่าความกังวลส่วนตัวและเปิดใจก้าวข้ามอคติไปได้


                       ในแง่นี้จะเห็นได้ว่าประชาธิปไตยไม่ได้มีเพียงมิติของการเลือกตั้งแม้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกตั้งนั้นเป็น
               กลไกสำคัญของประชาธิปไตยสมัยใหม่ที่จะทำให้ประชาชนสามารถใช้อำนาจของตนผ่านการเลือกผู้แทนได้

               ทว่าประชาธิปไตยแบบผู้แทนที่ดีจะต้องมาพร้อมกับกระบวนการเลือกตั้งที่มีคุณภาพด้วย ไม่เช่นนั้นอาจเกิด

               กรณีของการเลือกตั้งที่นำไปสู่การได้มาซึ่งผู้แทนเผด็จการหรือผู้นำที่ไร้ความสามารถได้ IDEA ได้ชี้ให้เห็นว่า

               ประชาธิปไตยไม่ได้หมายเพียงการเลือกตั้งเท่านั้น โดยชี้ให้เห็นว่าหากกระบวนการเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยทุจริต

               หรือไม่มีกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลที่ดีพอ การเลือกตั้งอาจนำมาซึ่งผู้นำเผด็จการได้ ดังเช่นกรณีของฮิตเลอร์

               ผู้นำชาวเยอรมันพรรคนนาซี (NAZI) ที่พยายามสถาปนาตนเองขึ้นเป็นผู้นำที่เรียกว่า ฟูเรอร์ (Fuehrer) และ

               รวบอำนาจของรัฐสภามาไว้กับตัวก็มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน (ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ 2557 หน้า 35-36)

                       วิสุทธิ์ โพธิแท่น (2550, หน้า 53) ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งที่แท้ (genuine election) นั้น ผู้มีสิทธิ

               เลือกตั้งต้องมีทางเลือกและไม่มีการคดโกงเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องมีความหลากหลายเพื่อ

               เปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เลือกผู้ที่ตนคิดว่าดีที่สุดเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้แทน เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไป

               ตามเจตนารมณ์หรือความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ นักวิชาการจึงพยายามที่จะแสวงหา

               แนวทางการพัฒนาประชาธิปไตยให้มีประสิทธิภาพและยังสามารถรักษาหลักการประชาธิปไตยไว้ได้ ในการ
               รักษาสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของผู้คนในสังคม ด้วยเหตุนี้ ประชาธิปไตยในรูปแบบอื่นๆจึงได้รับการ

               พัฒนาขึ้นมา ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือนับเป็นประชาธิปไตยอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงมากขึ้น


                       ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ (2557) ชี้ให้เห็นในรายละเอียดว่าประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือนั้น อันที่

               จริงเป็นรูปแบบหนึ่งของการสนทนา หรือที่เรียกว่าการสานเสวนาหาทางออก (deliberation) ซึ่งแท้จริง

               แล้วเป็นกระบวนการธรรมชาติและเกิดขึ้นมานานแล้วในอดีต เมื่อมนุษย์ในสังคมมีประเด็นปัญหาระหว่างกัน
               ทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาคือการหันหน้าเข้าหากันและคุยกัน ยกตัวอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาสร้างชาติ

               ขึ้นมาได้ก็ด้วยการหันหน้าคุยกันการสานเสวนาหาทางออกนับเป็นปฏิบัติการทางการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด แต่เดิม

               นั้นเรื่องนี้เป็นกระบวนการที่กระทำกันในการประชุมสภาเมือง ซึ่งเกิดขึ้นก่อนจะมีการร่างรัฐธรรมนูญและ

               กฎหมายเสียอีก การพูดคุยปรึกษาหารือกันจึงเป็นปฏิบัติการทางการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด แต่เดิมกระบวนการนี้

               ถูกนำมาใช้ระหว่างผู้ทำปศุสัตว์เพื่อกำหนดทางออกร่วมกันเพื่อรักษาปศุสัตว์ของพวกเขา กระบวนการนี้ต่อมา

               ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกันเมื่อสร้างชาติ

                       Deliberative Democracy Institute (DDI) มูลนิธิแคธเธอริ่ง (Kettering Foundation) ประเทศ

               สหรัฐอเมริกาชี้ให้เห็นว่าประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ (deliberative democracy) นั้นเป็นกระบวนการที่

               จะเกิดผลในระยะยาว โดยการที่ประชาชนจะเข้าไปเผชิญหน้ากับปัญหาสาธารณะและลงมือปฏิบัติแก้ไขปัญหา




                                                                                                       18
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24