Page 99 - kpi22237
P. 99
93
จะเห็นได้ว่า กระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น ถึงแม้จะเปิดโอกาสให้จัดการเลือกตั้งขั้นต้นโดยระดับพื้นที่ผ่านสาขาพรรคการเมือง
หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจ าจังหวัด ซึ่งโดยทฤษฎีดูเหมือนว่าจะเป็นรูปแบบการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง
ในลักษณะของการ “นับรวมคนทุกกลุ่ม” (inclusive) ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยภายใน
พรรคการเมือง (intraparty democracy) ให้เกิดขึ้นได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกตั้งขั้นต้นดังกล่าว
เป็นแต่เพียงการ “เสนอชื่อ” ผู้ที่น่าจะได้เป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตนั้น แต่กระบวนการ
ดังกล่าวไม่ได้มีอ านาจหรืออิทธิพลต่อการตัดสินใจส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองอย่างส าคัญ
เพราะอ านาจสุดท้ายในการตัดสินใจส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งก็ยังคงอยู่ที่กรรมการบริหารพรรค ซึ่งถือเป็นชนชั้นน า
ของพรรค (party elite) ตามแนวคิดของ Hazan and Rahat (2001) ว่าจะเห็นชอบว่าจะส่งผู้ได้รับการสรรหา
ลงสมัครรับเลือกตั้งตามที่เขตพื้นที่เสนอชื่อมาหรือไม่ และก็ไม่ได้มีการก าหนดกลไกใดๆ ที่จะท าให้การเลือกตั้ง
ขั้นต้นโดยเขตพื้นที่นั้นมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มผู้น าพรรคแต่อย่างใด ในแง่นี้อาจกล่าวได้ว่า กระบวนการ
สรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
จึงมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นกระบวนการ “เฉพาะกลุ่ม” (exclusive) มากกว่าโดยชนชั้นน าในพรรคการเมือง
เมื่อมาพิจารณากฎหมายอย่างละเอียดจะพบว่า “ปัญหาและอุปสรรคในเชิงกฎหมาย” สามารถจ าแนก
ออกเป็นสองส่วนด้วยกัน คือ หนึ่ง ปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวกับโครงสร้างของกฎหมายพรรคการเมือง
สอง ปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคัดสรรผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ
การท าให้ระบบการเลือกตั้งขั้นต้นไม่สามารถน าไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งมีรายละเอียดจากการวิเคราะห์ที่น าเสนอ
ดังต่อไปนี้
ปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวกับโครงสร้างของกฎหมายพรรคการเมือง
ปัญหาด้านการจัดตั้งพรรคการเมือง และองค์ประกอบของสาขาพรรคการเมือง โดยรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 45 วางหลักกฎหมายไว้ว่า
“บุคคลมีเสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมืองตามวิถีทางการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยอย่างน้อย
ต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งต้องก าหนดให้เป็นไปโดยเปิดเผย
และตรวจสอบได้ เปิดโอกาสให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการก าหนดนโยบาย
และการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และก าหนดมาตรการให้สามารถด าเนินการโดยอิสระไม่ถูก
ครอบง าหรือชี้น าโดยบุคคลซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น รวมทั้งมาตรการก ากับ
ดูแลมิให้สมาชิกของพรรคการเมืองกระท าการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง”