Page 98 - kpi22237
P. 98
92
ของกระบวนการสรรหาจะเริ่มต้นมาจากเขตเลือกตั้ง คือ การประชุมสาขาพรรคการเมือง หรือ การประชุมตัวแทน
พรรคการเมืองประจ าจังหวัดในเขตเลือกตั้ง แต่เมื่อได้ผู้ได้คะแนนสูงสุดแล้ว อ านาจตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย
ก็ยังอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองอยู่ดี ในแง่นี้จึงอาจเรียกได้ว่า กระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนี้
เป็นแต่เพียงการ “แบ่งอ านาจ” ให้ระดับเขตพื้นที่ได้เสนอชื่อ (nomination) ตัวแทนของพรรคที่จะลงสมัคร
รับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งและระบบบัญชีรายชื่อ มิใช่การกระจายอ านาจให้ระดับเขตพื้นที่มีส่วนส าคัญ
ต่อการตัดสินใจแต่อย่างใด เพราะอ านาจสุดท้ายในการตัดสินใจก็ยังคงอยู่ที่กรรมการบริหารพรรค และในส่วน
สุดท้าย คือ ระบบการเลือกหรือสรรหา พบว่า ในระดับพื้นที่ ให้เลือกผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 2 อันดับแรก (แบบแบ่ง
เขต) และส่งต่อให้กรรมการบริหารพรรคการเมือง และ 15 คนตามล าดับคะแนน (แบบบัญชีรายชื่อ) ส่งต่อให้
กรรมการบริหารพรรค ในระบบเขต กรรมการบริหารต้องให้ความเห็นชอบในขั้นสุดท้าย หากไม่เลือกผู้ที่ได้คะแนน
อันดับ 1 จากเขตเลือกตั้ง ก็เลือกผู้ที่ได้คะแนนอันดับ 2 แต่หากไม่เลือกทั้งสองคน ก็ให้มีการปรึกษาหารือกับ
คณะกรรมการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อมีมติต่อไป ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรคต้องให้
ความเห็นชอบกับทั้ง 15 รายชื่อ หากไม่ให้ความเห็นชอบ ก็ต้องด าเนินกระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง
แบบบัญชีรายชื่อใหม่ทั้งหมด
ตาราง 5.1 กระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค
การเมือง พ.ศ. 2560 วิเคราะห์ด้วยกรอบความคิดรวบยอด
ผู้เข้ารับการสรรหา (candidacy) สมาชิกพรรคการเมือง
ผู้ด าเนินการสรรหา (party selectorates) สมาชิกพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรคการเมือง
การกระจายอ านาจในการสรรหา สาขาพรรคการเมือง/ตัวแทนพรรคในระดับพื้นที่ ถึงแม้จะ
(decentralization) มีการลงคะแนนสรรหาผู้ลงสมัคร แต่ไม่ได้มีอ านาจ
ในการตัดสินใจอย่างส าคัญ ท าได้แต่เพียงน าเสนอชื่อ
(nomination) ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 2 คน (แบบเขต)
และ 15 ชื่อ (แบบบัญชีรายชื่อ) ไปยังกรรมการบริหาร
พรรคการเมือง ซึ่งจะมีมติตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
ระบบการเลือกหรือสรรหา เลือกผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 2 อันดับแรก (แบบเขต) และ
(voting/appointment system) 15 ชื่อ (แบบบัญชีรายชื่อ) เพื่อส่งต่อให้กรรมการบริหาร
พรรค ในระบบเขตหากกรรมการบริหารพรรคไม่เลือก
ผู้ที่ได้คะแนนอันดับ 1 ก็เลือกผู้ที่ได้คะแนนอันดับ 2
แต่ถ้าไม่เลือกทั้งสองคนให้ปรึกษากับคณะกรรมการสรรหา
ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งว่าจะมีมติอย่างไร ส่วนแบบบัญชี
รายชื่อ 15 คน ถ้ากรรมการบริหารพรรคไม่เห็นชอบด้วย
ก็ต้องไปเริ่มกระบวนการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่
อีกครั้งหนึ่ง