Page 37 - kpi22237
P. 37
31
เพื่อลงแข่งขันรับเลือกตั้งจริงเพราะในเขตเลือกตั้งที่ “มั่นใจว่าจะชนะ” (safe) และเป็น “เป้าหมายหลัก” (target)
อยู่แล้ว (Ashiagbor 2008, 34)
เมื่อหันมาพิจารณาพรรคการเมืองคู่แข่งอย่างพรรคแรงงาน (The Labour Party) ได้มีกระบวนการสรร
หาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองในขั้นตอนของคุณสมบัติจะต้องเป็นสมาชิกพรรคอย่างน้อย 12 เดือน
และเป็นสมาชิกของสหภาพหรือสนับสนุนสหภาพที่อยู่ในกลุ่มของพรรคแรงงาน โดยการคัดเลือกผู้สมัคร
รับเลือกตั้งจะมาจากการสมัครของสมาชิกดังกล่าว
ขั้นตอนในการสรรหาผู้แทนลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคแรงงานเริ่มต้นจากการที่กรรมการบริหารพรรค
ก าหนดแนวทางในการเปิดรับสมัครและแบบฟอร์มสมัครส าหรับสมาชิกพรรคที่ต้องกรอกคุณสมัติเฉพาะด้านต่างๆ
เช่น ประสบการณ์ในพรรคแรงงาน ประสบการณ์ท างาน ความรู้ที่มี ทักษะในการสื่อสาร ทักษะการรณรงค์หาเสียง
ทักษะในการแก้ไขปัญหาในฐานะตัวแทน ทักษะในการท างานเป็นทีม และทักษะอื่นๆ
เมื่อยื่นใบสมัครแล้วจะมีการสัมภาษณ์และคัดเลือกคณะกรรมการจากสาขาพรรคในท้องถิ่น (local
branches) ในชื่อรวมกันว่าเขตเลือกตั้งพรรคแรงงาน (Constituency Labour Party) จนได้รายชื่อผู้ลงสมัคร
เบื้องต้น (list of pre-approved candidates) เพื่อน ารายชื่อมาพิจารณาความเหมาะสม ทั้งคุณสมบัติทั่วไปและ
คุณลักษณะเฉพาะ เช่น เพศและชาติพันธุ์ เป็นต้น จนคณะกรรมการเขตเลือกตั้งทั่วไป (Constituency General
Committees) ได้ตัดสินใจเลือกรายชื่อจนได้เป็น “ชุดรายชื่อ” (shortlists) เพื่อให้สมาชิกพรรคการเมืองที่มี
สมาชิกสภาพเกิน 6 เดือน ร่วมลงคะแนนตัดสินว่าจะส่งใครลงสมัครแข่งขันเลือกตั้งจากชุดรายชื่อดังกล่าว จนได้
รายชื่อเพื่อส่งไปให้คณะกรรมการบริหารพรรคในส่วนกลางรับรองขั้นสุดท้ายเพื่อส่งเข้าแข่งขันเลือกตั้งทั่วไป
(Ashiagbor 2008, 50-53)
ตารางที่ 2.3 เปรียบเทียบกระบวนการสรรหาผู้สมัครของพรรคแรงงานและพรรคอนุรักษ์นิยม
ประเด็นเปรียบเทียบ พรรคแรงงาน พรรคอนุรักษ์นิยม
อ านาจในการตัดสินกติกาใน กลไกพรรคในส่วนกลางวางกติกาการสรรหา
การสรรหาผู้สมัคร
คุณสมบัติพื้นฐาน สมาชิกพรรคเป็นเวลา 12 เดือน เน้นที่ทักษะเฉพาะของบุคคล
และมีส่วนร่วมในสหภาพฯ
การใช้ “รายชื่อที่ได้รับการ เขตเลือกตั้งสมารถเลือกรายชื่อ การสรรหา/เลือกผู้สมัครมาจาก
อนุมัติ” เพื่อให้พรรคก าหนดเป็นชุดรายชื่อใน “รายชื่อที่ได้รับการอนุมัติ”
การสรรหา ในระดับชาติเท่านั้น
การเลือกตัวแทนที่จะลง ได้เสียงข้างมากจากการลงคะแนน การประชุมสมาชิกพรรคจะคัดเลือก
สมัครรับเลือกตั้ง ของสาขาและกรรมการบริหารพรรค จากรายชื่อที่ได้รับการอนุมัติแล้ว
ได้สนับสนุน (endorsement) แล้ว จากส่วนกลาง