Page 42 - kpi22237
P. 42
36
Labour ที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมโดยให้ส่วนย่อย/สาขาของพรรคเข้ามาร่วมก าหนดกระบวนการสรรหา
ผู้สมัครรับเลือกตั้ง
2.5.5 กรณีศึกษาพรรคการเมืองในประเทศเม็กซิโก
ประเทศเม็กซิโกเป็นประเทศในลาตินอเมริกาที่มีระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ ภายใต้กลไกระบบ
การเมืองแบบประธานาธิบดี (presidential system) โดยประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งทางตรงและมีวาระ
การด ารงต าแหน่ง 6 ปี ในขณะที่รัฐสภา (The Federal Congress, Congreso de Unión) เป็นสภาคู่ประกอบด้วย
วุฒิสภา (The Senate, Cámara de Senadores) มีสมาชิกทั้งหมด 128 คน แบ่งเป็น 96 คน
มาจากการเลือกตั้งเสียงข้างมากของ 31 มลรัฐ (มลรัฐละ 3 ที่นั่ง) และอีก 3 ที่นั่งจากเขตเลือกตั้งสหพันธรัฐ (the
Federal District) และอีก 32 ที่นั่งมาจากการเลือกตั้งแบบสัดส่วนในระดับชาติ
ในส่วนสภาผู้แทนราษฎร (the Chamber of Deputies, Cámara de Diputados) จ านวน 500 ที่นั่ง
ได้ใช้ระบบเลือกตั้งแบบผสม (mixed system) โดยจ านวน 300 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งโดยตรงแบบหนึ่งเขตหนึ่ง
คนด้วยระบบ FPTP และอีก 200 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งในระบบสัดส่วน บนฐานของการแบ่งมลรัฐออกเป็น 5
กลุ่มบัญชีรายชื่อภูมิภาค
โดยพรรคการเมืองที่ส าคัญอย่างพรรคคณะปฏิวัติสถาบัน (Institutional Revolutionary Party, Partido
Revolucionario Institucional, PRI) เป็นพรรคการเมืองที่มีบทบาทส าคัญตั้งแต่ปี ค.ศ. 1929 และครอบครอง
อ านาจในการเมืองเม็กซิโกเป็นเวลายาวนานตลอดศตวรรษที่ 20 แต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ความนิยมในพรรค PRI
กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี ค.ศ. 2000, 2006 และ 2018
ด้วยระบบเลือกตั้งแบบผสม และอิทธิพลพรรค PRI ตลอดระยะเวลาในการครองอ านาจทางการเมือง ผู้น า
พรรคการเมืองเป็นผู้ก าหนดบัญชีรายชื่อในส่วนของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบสัดส่วน และกลไกส่วนกลาง
ของพรรคสามารถก าหนดบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งขั้นต้น (primaries) ภายในพรรค
ก็ตาม โดยพรรคได้ออกแบบกลไกในการสรรหาผู้สมัครไป 2 กลไกประกอบด้วย “สภาการเมืองระดับชาติ”
(National Political Council, Consejo Político Nacional, CPN) และ “คณะกรรมการระดับชาติเพื่อการจัดการ
ภายใน” (National Commission for Internal Processes, Comisión Nacional de Procesos Internos, CNPI)
ตามตารางที่ 2.5 ดังนี้