Page 36 - kpi22228
P. 36

28



                       2.6.4 กลยุทธการตลาดเชิงประสบการณ

                       แนวคิดอีกแนวคิดหนึ่งที่แตกตางกันออกไปก็คือกลยุทธการตลาดเชิงประสบการณ (Experiential
               Marketing) เปนหนึ่งในการตลาดสมัยใหมที่มุงเนนใหผูบริโภคไดสัมผัสประสบการณของการใชสินคา/บริการ

               นั้น ๆ เพื่อใหคนไดรับรูและสัมผัสถึงคุณภาพของสินคา ซึ่งสงผลใหเกิดความภักดีตอตราสินคา (brand

               loyalty) ไดในระยะเวลาตอมา ดวยเหตุนี้การทําการตลาดทางการเมืองในแนวคิดแบบนี้จึงพยายามใหผูมีสิทธิ
               ออกเสียงเลือกตั้งเขามามีสวนรวมในประสบการณของพรรคการเมืองไมใชเปนเพียงผูรอผลที่เกิดขึ้นหรือวา

               เปนผูใชผลิตภัณฑทางการเมืองเทานั้นแตเขามามีสวนรวมในการทําผลิตภัณฑทางการเมืองดวยเลย


               2.7 รูปแบบของการตลาดการเมือง

                       จากที่ไดศึกษารูปแบบหลักของการตลาดการเมือง พบวาพรรคการเมืองนําเสนอตัวเองใน 3 รูปแบบ

               ไดแก
                       2.7.1 พรรคการเมืองที่เนนผลิตภัณฑ

                      2.7.2 พรรคการเมืองที่เนนการขาย

                      2.7.3 พรรคการเมืองที่เนนตลาด
                              1) พรรคการเมืองที่เนนการสรางอนาคตรวมกัน

                              2) พรรคเมืองที่สรางตลาดเฉพาะทางหรือเฉพาะกลุม


                      2.7.1 พรรคการเมืองที่เนนผลิตภัณฑ (Sales-Oriented Party)

                      พรรคการเมืองที่เนนผลิตภัณฑจะเนนการออกแบบผลิตภัณฑ กลาวคือ ตัวผูนําพรรคคุณสมบัติ

               ของนักการเมือง ซึ่งเปนที่ตองการของตลาด หรือสรางผลิตภัณฑทางนโยบายที่เชื่อวาตลาดตองการ
                      พรรคการเมืองที่เนนผลิตภัณฑ มีกระบวนการการตลาดการเมืองมุงเนนที่การวางตัวเองในฐานะ

               ผลิตภัณฑ  มีกระบวนการการตลาดการเมือง ดังนี้ พรรคการเมืองจะกําหนดพฤติการณที่สอดคลองกับ

               ความเชื่อที่ตัวเองเชื่อวาดีที่สุดเปนสําคัญ จากนั้นจะสํารวจตลด เพื่อศึกษาพฤติกรรม ปฏิกิริยาของผูเลือกตั้ง
                      ที่มีปฏิกิริยาตอพรรค โดยระบุสัดสวนของผูมีสิทธิเลือกตั้งที่จะเลือกและไมเลือกพรรคของตน ทั้งนี้

               จะมีแนวทางการสื่อสารตางกันในการเสนอตัวขอรับการสนับสนุนจากประชาชนผานการสื่อสารทางการเมือง

               ถึงผลิตภัณฑที่ตัวเองมี ทั้งตอกลุมที่เลือกตัวเอง และกลุมที่ไมเลือก ขณะเดียวกันก็จะพยายามลดจุดออนของ
               ตน ในการสื่อสารจะคํานึงถึงความเปนมืออาชีพเพื่อสรางแรงจูงใจใหกลุมที่ไมสนับสนุนพรรค หันมาสนับสนุน

               พรรคของพวกเขาในที่สุด ในการรณรงคหาเสียงเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้งก็พยายามปรับปรุงการสื่อสาร

               ใหมีประสิทธิภาพ เมื่อไดชัยชนะในการเลือกตั้งสามารถเขาถึงตําแหนงไดแลวจึงสามารถสงมอบผลิตภัณฑคือ
               ตัวนักการเมืองและนโยบายไดในที่สุด ดังแผนภาพขางลางนี้
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41