Page 35 - kpi22228
P. 35
27
ขาดแคลนอะไร แลวพัฒนานโยบายและเครื่องมือในการสื่อสารใหตรงกับความตองการของผูมีสิทธิออกเสียง
เลือกตั้งใหไดมากที่สุด ในกรณีนี้ผูมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจึงเลือกตั้งเพราะตองการใหนโยบายที่ตัวเองตองการ
ถูกนําเสนอและถูกนําออกมาใช
การทําการตลาดการเมืองในลักษณะนี้ประกอบไปดวย 4 มุมมองที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน 1) มุมมอง
ดานคุณคา ความเชื่อ และพฤติกรรม 2) ใชเรื่องการรับรูทางการตลาด (market sensing) และความสามารถ
ในการเชื่อมโยงกับผูบริโภค 3) กระบวนการคิดในทางยุทธศาสตรที่จะสรางคํามั่นสัญญากับลูกคา และ
4) โครงสรางองคกร ระบบ และแรงจูงใจที่จะเอื้อใหเกิดกิจกรรมทั้งหมดในตลาด ซึ่งหมายความวาพรรค
การเมืองจะตองพยายามออกแบบตราสินคาที่อยูบนพื้นฐานของความตองการของผูบริโภค บนพื้นฐาน
เชิงประจักษ งาวิจัย และการหาขอมูลที่เปนจริง
การตลาดการเมืองในลักษณะนี้ไดรับการถกเถียงมากมายวามีความถูกตองจริงหรือไม เพราะ
ในทางหนึ่งก็ไดมีการเปลี่ยนแปลงผูนําทางการเมืองใหมีความสัมพันธในลักษณะระนาบเดียวกันกับผูมีสิทธิ
ออกเสียงเลือกตั้ง หรือเขาไปรับฟงความตองการของเขาและทํานโยบายของพรรคใหตรงใจผูมีสิทธิออกเสียง
เลือกตั้ง ซึ่งก็มีประโยชนในแงของการเปดพื้นที่รับฟงความตองการของประชาชน แตอาจจะไมตรงกับ
ความตองการผูนําทางการเมืองในแงที่วา ผูนําทางการเมืองควรจะเปนผูนําทางนโยบาย เปนผูตัดสินใจเลือก
วิธีการหรือแนวทางที่ถูกตองเพื่อประโยชนของประเทศ
2.6.3 กลยุทธการตลาดทางการเมืองในฐานะความสัมพันธระยะยาว (relational political
marketing)
การตลาดทางการเมืองยังมีเรื่องของยุทธศาสตรของความสัมพันธ ซึ่งหมายความถึงการใชวิธีการ
ทางการตลาดในการสรางความสัมพันธระยะยาวในเชิงบวกระหวางผูมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งและผูนํา
ทางการเมืองซึ่งจะชวยทําใหความสัมพันธระหวางผูมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งและผูนําทางการเมืองยั่งยืนแมวา
จะอยูในชวงเวลาวิกฤตหรือความผิดพลาดใด ๆ ยังมีการฟงเสียงของผูมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งแตหัวใจสําคัญก็
คือการพูดคุยกันอยางสม่ําเสมอ ซึ่งจะนําไปสูการสรางความเชื่อใจและเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาป 2008 อานิตา ดันน (Anita Dunn) ซึ่งเปนที่ปรึกษา
ดานกลยุทธในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ไดกลาวไวในการประชุมสมาคมรัฐศาสตรอเมริกันวา การตลาดทาง
การเมืองไดเปลี่ยนแปลงไปจากสิ่งที่เรียกไดวาเปน "นี่คือสิ่งที่ฉันนําเสนอตอคุณ" ไปเปน "เรามารวมทํางาน
ดวยกันเพื่อที่จะสรางการเปลี่ยนแปลง" จะสังเกตวาในปจจุบันการตลาดทางการเมืองจะอยูในรูปแบบที่มี
ความสัมพันธแบบแบนราบผูมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจะรูสึกเปนเจาของและมีสวนรวมมากกวามองวาตัวเอง
เปนเพียงผูบริโภค (consumer) ของผลิตภัณฑทางการเมือง