Page 21 - kpi22228
P. 21
13
ประเด็นที่นาสนใจเกี่ยวกับการทําความเขาใจคําจํากัดความของการตลาดทางการเมืองคือ เมื่อนําไป
เปรียบเทียบกับการตลาดตามปกติวา มีความเหมือนหรือแตกตางกันหรือไม เพราะในการทําความเขาใจ
โดยปกติแลวจะเห็นวา การนําหลักการทางการตลาดเขามาสูการเมืองอาจมีทั้งขอที่เหมือนกันและแตกตางกัน
ความเหมือนกันเชนในเรื่องของแนวคิด ที่เกี่ยวกับผูบริโภค การแบงสวนทางการตลาด (market
segmentation) สวนผสมทางการตลาด (marketing mix), ภาพลักษณ, ความภักดีตอเครื่องหมายการคา,
แนวคิดของผลิตภัณฑ และจุดยืนตอผลิตภัณฑ รวมทั้งเครื่องมือทางการตลาด เชน การทําการวิจัยตลาด
การสื่อสาร และการโฆษณา
นักวิชาการรุนบุกเบิก เชน Philip Kotler และ Sidney Levy (1969) มักจะบอกวา การทําการตลาด
ทางการเมืองก็เหมือนการขายสบูและยาสีฟน การสรางการสนับสนุนใหกับผูสมัครรับเลือกตั้งก็เหมือน
การตองการขายสบูใหกับผูบริโภคนั่นเอง ตัวอยางที่นาคิดและถกเถียงตอไปก็คือ “ผลิตภัณฑ” ทางการเมือง
กับ “ผลิตภัณฑ” ทางการตลาดอาจจะมีความแตกตางกันหรือไม เพราะในทางการตลาดแลว เจาหนาที่
ทางการตลาดจะทําการขายสินคาอุปโภคบริโภค เชน สบู หรือยาสีฟน เหลานี้เปนการทําการตลาดคือ
ทําอยางไรจึงจะขายสินคาเหลานี้ใหกับผูบริโภคได ดวยเหตุนี้ นักวิชาการรุนใหม เชน Alex Marland (2003)
ไมเห็นดวยกับการเปรียบเทียบการตลาดทางการเมืองเปนการขายสบูขางตน เพราะการตลาดทางการเมือง
มีความเกี่ยวของกับประเด็นตาง ๆ อยางสลับซับซอน ไมไดเปนเพียงการ “ขายของ” อยางเดียว ผูลงสมัคร
รับเลือกตั้งไมไดถูก “ขาย” แตพวกเขากําลังถูก “ทําการตลาด” ซึ่งแนวคิดนี้คลายกับแนวคิดของ Nicholas
O’Shaughnessy (1987, 63) ที่กลาววา “การเมืองเกี่ยวของกับบุคคล ไมใชสิ่งของ” ดังนั้นนักการเมือง
ควรจะตองถูกมองวาเขามาทํางานในชวงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ประเภทเดียวกับหมอ หรือ นักกฎหมาย
หรือเรียกอีกอยางหนึ่งก็คือ การตลาดทางการเมืองเกี่ยวของกับผูคนและความสัมพันธซึ่งกันและกัน ในขณะที่
การตลาดโดยทั่วไปจะหมายถึงความสัมพันธระหวางคนกับผลิตภัณฑ ดังนั้น ความคิดหรือการกอรูปของ
ความประทับใจที่ผูลงสมัครรับเลือกตั้งมีตอประชาชนหรือสังคมจะมีรูปแบบที่แตกตางไปจากการขายสินคา
โดยทั่ว ๆ ไป (Cwalina, Falkowski, & Newman, 2011: 8)
คําจํากัดความขางตนมีความสําคัญกับการทําความเขาใจเรื่องการตลาดทางการเมือง โดยเฉพาะ
อยางยิ่งในเรื่องของความแตกตางระหวาง “สินคา” และ “บุคคล” เพราะการตลาดทางการเมืองเปนการทํา
การตลาดกับบุคคลที่มีอุดมการณ มีนโยบาย และมุงที่จะทํางานทางการเมืองเพื่อการเขาไปมีอํานาจทาง
การเมือง ดังนั้นการตลาดทางการเมืองจึงเปนการทําการตลาดกับสิ่งที่มีความไมเปนกลางทางการเมือง
ผูบริโภคในทางการเมือง หรือผูมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอาจจะตองการขอมูลจากสินคามากกวาการเลือก
ซื้อสินคาหรือซื้อสบูสักหนึ่งกอน และผูที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอาจจะไมไดการบริการหรือสินคาในทันทีที่มี
การตกลงปลงใจเลือกตั้งใครสักคนหนึ่ง แตการจะไดสินคาหรือบริการหลังจากนั้นจะตองมีกระบวนการอื่น ๆ
เชน ผูสมัครรับเลือกตั้งที่ผูมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งไดเลือกขึ้นมาจะเปนตัวแทนในเขตนั้นหรือไม และ
หากเปนตัวแทนแลว พรรคการเมืองที่ผูลงสมัครรับเลือกตั้งคนนั้นสังกัดจะไดเปนพรรครวมรัฐบาล
และนํานโยบายหรือคํามั่นสัญญาที่ไดใหไวกับประชาชนไปทําใหเกิดขึ้นไดจริงหรือไม และในระบบรัฐสภานั้น