Page 61 - kpi21588
P. 61

ร่างรายงาน บทบาทของพลเมืองในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาธิปไตยไทย   4-21



                       สูงสุดในเขตเมืองคือ 3,000 บาท ในบางกรณีที่เป็นการจ่ายเหมาเงินบางส่วนถูกกักเก็บไว้ที่หัวคะแนนที่เรียกว่า

                       “ค่าหัวคิว” หัวคะแนนจะเป็นคนที่รู้ดีว่าบ้านไหนเข้าได้ บ้านไหนเข้าไม่ได้หรือซื้อไม่ได้ อย่างไรก็ตามในการ
                       เลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมารูปแบบของการซื้อยกครัวไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะโอกาสที่บ้านที่มี

                       คนรุ่นใหม่ทั้งที่มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่มีสิทธิเลือกตั้งจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงคะแนนกับสมาชิกใน

                       ครอบครัวหรือการโพสแจ้งบอกข้อมูลในสื่อออนไลน์ที่อาจน ามาสู่หลักฐานการซื้อเสียงได้

                                                           - เฝ้าคูหา หัวคะแนนที่ด าเนินการในการซื้อสิทธิขายเสียงจะนั่งอยู่
                       หน้าคูหาเพื่อส ารวจดูการเดินทางมาลงคะแนนเสียงและผู้ที่รับเงินเดินไปแล้ว เปรียบเป็นการตรวจเช็คข้อตกลง

                       ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ชาย ประชาชนที่รับเงินจะเห็นหัวคะแนนที่อาจมานั่งรถหรือแม้แต่ท าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง

                       ประเด็นนี้ไม่ใช่แค่กดดันผู้รับเงินเท่านั้น แต่หัวคะแนนมีความกดดันจากผลการเลือกตั้ง เพราะการเอาเงิน
                       นักการเมืองมาจัดสรรในพื้นที่ต้องมีการสร้างหลักประกันจ านวนคนตามสัดส่วนของเงิน ดังนั้นก็เกิดกรณีที่

                       หัวคะแนนหนีหลังเลือกตั้งเพราะไม่สามารถท าจ านวนได้ตามที่ตกลงกันกับนักการเมือง ในช่วงเช้าให้ 200 ตอน
                       เที่ยงยังไม่ตรงตามเป้าให้ 300 บาทและก่อนปิดหีบจะให้หัวละ 800 เพราะต้องท าให้จ านวนผู้มาลงคะแนนได้

                       ตามเป้าที่ก าหนดตัวเลขกับนักการเมือง

                                                   การซื้อสิทธิขายเสียงยังคงปรากฏในพื้นที่ โดยกระจายตัวอยู่ในกลุ่มเครือ

                       ญาติ กลุ่มสตรีแม่บ้านยังเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ส าคัญของกลุ่มหัวคะแนนและนักการเมือง เพราะผู้หญิงเป็นคน

                       พูดง่ายและมีปฏิสัมพันธ์ดี หากแต่การตัดสินใจลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร/พรรคการเมืองใดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการ
                       ซื้อสิทธิขายเสียงเพียงอย่าเดียว นโยบายถือเป็นสิ่งส าคัญต่อการพิจารณาตัดสินใจเลือกของผู้คน อย่างไรก็ตาม

                       แม้การซื้อสิทธิขายเสียงจะไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคนในชุมชน แต่การซื้อสิทธิขายเสียงจะยังคงอยู่ไม่
                       หายไปตามกาลเวลา “...ซื้อเสียงไม่มีวันหายไปจากโลก เหมือนยาเสพติด อยู่ที่จิตส านึกของคน...” ประเด็นที่

                       น่าสนใจคือ เคยมีการพยายามส่งหัวคะแนนจัดตั้งจากภายนอกเข้ามาแต่ไม่ได้ผลเท่ากับการมีหัวคะแนนเป็นคน
                       ในชุมชน โดยเฉพาะการเป็นผู้น าชุมชนในระดับหมู่บ้าน


                                            ประเภทของหัวคะแนนในพื้นที่ชุมชนหลักๆ ที่ปรากฎในการเลือกตั้งคือ

                                                           - ผู้น าชุมชน หัวคะแนนคือ กลุ่มผู้น า ซึ่งเป็นกุญแจส าคัญของการ

                       ชนะการเลือกตั้ง ถ้าหัวคะแนนเก่ง คุมคะแนนเสียงได้จะมีผลต่อการชนะการเลือกตั้ง ผู้น ามีสองประเภทคือ
                       ผู้น าที่เป็นทางการได้แก่ ก านัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมไปถึงสมาชิกสภาจังหวัด และผู้น ากลุ่มประธานชุมชน ประธาน

                       แม่บ้านซึ่งมีอ านาจเป็นต้นทุน หัวคะแนนอื่นไม่สามารถมีบทบาทได้เท่ากับผู้น าชุมชน ดังนั้นผู้น าชุมชนคือ

                       หัวคะแนนหลักของพรรคการเมือง ในทางกลับกันหากมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ส.ส.ก็จะเป็นหัวคะแนนให้กับ
                       ท้องถิ่น


                                                           - อาสาสมัครสาธารณะสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม . ) อสม.
                       กลายเป็นกลุ่มหัวคะแนนอีกกลุ่มที่มีอ านาจในทางการเมืองในพื้นที่ คบทบาทของ อสม. แม้จะเป็นเรื่อง

                       สาธารณะสุขและสุขภาพอนามัยของคนในชุมชนแต่การก่อตัวของปฏิสัมพันธ์ระหว่าง อสม.กับชุมชนมีความ
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66