Page 58 - kpi21588
P. 58

ร่างรายงาน บทบาทของพลเมืองในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาธิปไตยไทย   4-18



                       แย่งเสียงของอีกพรรค  รูปแบบของการใช้บุคลากรในการเป็นหัวคะแนน เน้นคนที่มีความรู้ เพื่อนนับถือ

                       รูปแบบของการเก็บบัตรประชาชนบางพื้นที่ก็เกิดขึ้นแล้วในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะนักการเมืองไม่ไว้ใจ
                       ประชาชน กลัวประชาชนหลอก นี่ก็ถือเป็นความรุนแรงในเรื่องของการ คุกคามสิทธิ์ อนาคตจะรุนแรงใน

                       รูปแบบใดอีกไม่มีใคร ล่วงรู้ได้เลย

                                            (15) ระดับท้องถิ่นจะมีการซื้อเสียงที่รุนแรง เพราะถ้าไม่มีเงินย่อมไม่ได้รับเลือก และ
                       ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีการเลือกตั้งปีล่ะครั้ง เงินจะได้สะพัด และเกิดการว่าจ้างงานเยอะขึ้น คนจะได้มีงานท า

                       ด้วย
                                            (16) ยังมีความรุนแรงมาก แต่ในปัจจุบันประชาชนมีความรู้มากขึ้น รวมถึงโลก

                       ออนไลน์ที่กว้างขึ้น การเปลี่ยนจะเปลี่ยนไปเป็นการซื้อโดยจ้างงานมากกว่าการให้เงิน เพราะกฎหมายรัดกุม
                       มากขึ้น



                                            จากข้อมูลการประชุมกลุ่มในพื้นที่สกลนคร ระบุถึงรูปแบบและพัฒนาการของการ
                       ซื้อเสียงในปัจจุบันไว้ ดังนี้

                                            (1) การแจกเงินโดยหัวคะแนน มีการพัฒนาระบบที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพมาก

                       ขึ้น โดยใช้อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน (อสม.) เป็นหัวคะแนน ควบคู่ไปกับการใช้ผู้ใหญ่บ้านเป็น
                       หัวคะแนน เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านนั้นมีเพียงคนเดียว ไม่สามารถควบคุมคะแนนทั้งหมดได้ และมี

                       ผู้สมัครหลายคนมุ่งที่จะเอาผู้ใหญ่บ้านเป็นหัวคะแนน หากผู้ใหญ่ตกลงรับสนับสนุนผู้สมัครมากกว่าหนึ่งคนขึ้น
                       ไป ผู้สมัครจะขาดความมั่นใจว่าจะท าคะแนนให้เต็มที่ได้ เป้าหมายของหัวคะแนนจึงเปลี่ยนมาที่ อสม. โดยข้อดี

                       ของ  อสม. ต่อการซื้อเสียงคือ 1) อสม. 1 คน มีครัวเรือนที่รับผิดชอบดูแลเรื่องสาธารณสุข 10 ครัวเรือน 2) อส
                       ม. มีความใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกของครัวเรือน การหาหัวคะแนนจึงต้องให้ อสม. เป็น

                       หัวคะแนนรับผิดชอบเฉพาะสมาชิก 10 ครัวเรือนเท่านั้น ซึ่งจะมีผู้มีสิทธิลงคะแนนประมาณ 30 - 40 คน หาก

                       หมู่บ้านใดมี 100 ครัวเรือน จะใช้ อสม. เป็นหัวคะแนน 10 คน ท าให้คณะท างานของผู้สมัครฯ ควบคุมก ากับ
                       คะแนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีระบบการจัดการบริหารคะแนน ด้วยกระบวนการดังนี้

                                                   (1.1) คณะท างานของผู้สมัคร ค้นหา ทาบทาม ให้ อสม. มาเป็นหัวคะแนน
                       อาจจะไม่ได้อสม. ทุกคนในหมู่บ้านแต่จะคัดเอาเฉพาะผู้ที่ท าหน้าที่หัวคะแนนได้อย่างเต็มที่ และคัดเอาอสม.

                       ตามจ านวนคะแนนเสียงที่ต้องการในหมู่บ้านนั้น ๆ เช่น หากมีผู้มีสิทธิลงคะแนนจ านวน 300 คน หรือประมาณ

                       100 ครัวเรือน หากต้องการคะแนน 60% ขึ้นไป จะใช้อสม. เป็นหัวคะแนนประมาณ 6 - 7 คน ต่อหน่วย
                       เลือกตั้ง

                                                   (1.2) อสม. ที่เป็นหัวคะแนนจะท าการจดรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนตาม
                       ครัวเรือนที่รับผิดชอบพร้อมหมายเลขบัตรประชาชนเพื่อน าเสนอคณะท างานของผู้สมัครฯ เพื่อน ามาตรวจสอบ

                       โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ว่ารายชื่อที่เสนอมานั้นเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่ในชุมชนนั้นจริงหรือไม่ และเป็น

                       บุคคลที่ถูกเสนอชื่อมาซ้อนกับหัวคะแนนอื่น ๆ หรือไม่ หากซ้ ากันจะถูกตัดออกให้เหลืออยู่ในบัญชีรายชื่อเดียว
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63