Page 101 - kpi21588
P. 101
ร่างรายงาน บทบาทของพลเมืองในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาธิปไตยไทย 7-9
เงิน แต่ไม่ใช่เงินส่วนตัวหรือของพรรคการเมือง โดยเฉพาะมีความชอบธรรมมากกว่าการซื้อสิทธิขายเสียง
แบบเดิม เพราะประชาชนได้ประโยชน์และเป็นบทบาทหน้าที่ของรัฐในการต้องด าเนินนโยบาย “...ชาวบ้าน
อยากได้เงิน แต่เขาจะเลือกไม่หรือไม่เป็นเรื่องเขา ไม่เลือกคนที่ไม่ถูกใจ”
ปัจจุบันความคิดของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปนโยบายของรัฐไม่ได้เป็นการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งหมด
หากแต่เป็นสวัสดิการที่ควรได้รับ ส่งผลให้บทบาทของหัวคะแนนในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป โดยท าหน้าที่เป็นเพียง
ผู้ส่งข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ให้แก่คนในชุมชน อาทิเช่น นโยบาย ผลงาน การประสานงานด้านต่าง ๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามข้อมูลจากผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่เชื่อว่ารูปแบบการซื้อสิทธิขายเสียงผ่านนโยบายจะเป็นรูปแบบหลัก
ในอนาคตและได้ผลมากกว่าการจ่ายเงินซื้อเสียงในช่วงเลือกตั้ง
การซื้อสิทธิขายเสียงปรากฏในพื้นที่มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน “หัวคะแนน” เป็นผู้ท าหน้าที่
ประสานงานระหว่าง ส.ส./ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กับผู้คนในพื้นที่ โดยท าหน้าที่กระจายข้อมูลข่าวสารการ
ท างาน ผลงงานการพัฒนา นโยบายของพรรคการเมืองและที่ส าคัญคือ การเข้าไปรับรู้ปัญหาความต้องการของ
แต่ละชุมชน น าไปสู่การสร้างข้อตกลงร่วมกัน หากได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. จะให้งบประมาณ/พัฒนาชุมชน
ในด้านต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า “สัญญาใจ” การซื้อสิทธิขายเสียงเป็นการให้เงินทางอ้อมเพื่อให้คนลงคะแนน
เสียงให้ตนเอง
ในปัจจุบันมีการซื้อสิทธิขายเสียงผ่านนโยบาย คนบางกลุ่มเลือกพรรคการเมืองดังกล่าว เพราะได้รับ
ผลประโยชน์ น าไปสู่การตั้งค าถามว่า เงินเหล่านี้มีที่มาอย่างไร และกังวลกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการ
เลือกตั้ง การซื้อสิทธิขายเสียงในพื้นที่ที่มีการเก็บข้อมูลมีตั้งแต่ 200 - 500 บาทต่อคนหรือ จ่ายในรูปแบบของ
การให้ค่าตอบแทนในการอบรม พรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งในบางพื้นที่จ่ายหัวคะแนนมา 800 –
1,000 บาท แต่หัวคะแนนหักออกไปบางส่วน การซื้อสิทธิขายเสียงเป็นการซื้อแบบมีระดับและระยะเวลา เช่น
การพาผู้น าไปเที่ยว การซื้อผู้น าจ านวนมาก การให้สิ่งของแก่ชุมชน หรือแม้แต่การสนับสนุนทางการเมืองให้แก่
ผู้น าชุมชนระกับหมู่บ้านให้มีบทบาทหรือลงเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นต่อไป
4) การซื้อหัวคะแนน มีการซื้อหัวคะแนนของพรรคอื่นๆ ซึ่งก็คือผู้น าชุมชนเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ
ในช่วงเวลาของสุญญากาศทางการเมืองที่ไม่มีการเลือกตั้งมาเป็นเวลานาน ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่เป็นที่รู้จัก
หรือไม่ได้ลงพื้นที่สม่ าเสมอจ าเป็นต้องใช้วิธีการ short cut ด้วยการซื้อหัวคะแนนมากกว่าการไปลงพื้นที่ ซึ่ง
ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีภูเขาและพื้นที่ห่างไกลที่ท าให้บทบาทหลัก
ของการรณรงค์หาเสียงให้ผู้สมัครเลือกตั้งตกไปเป็นของหัวคะแนนหรือผู้น าชุมชนในพื้นที่ การซื้อหัวคะแนนมี
ค่าใช้จ่ายสูงหลักหมื่นและหลักแสนขึ้นอยู่กับความสามารถและอิทธิพลของหัวคะแนนคนนั้น
อย่างไรก็ตาม เงินจากการซื้อสิทธิขายเสียงยังคงมีอิทธิพลต่อหัวคะแนนเท่านั้น หลายพื้นที่มีการ
ซื้อหัวคะแนน เพื่อท าหน้าที่เป็นตัวกลางเป็นระหว่างนักการเมืองและชุมชนในการพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสาร
ต่าง ๆ ตลอดจนชี้น าให้เลือกผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง