Page 98 - kpi21588
P. 98
ร่างรายงาน บทบาทของพลเมืองในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของประชาธิปไตยไทย 7-6
มากกว่าผู้รับเงิน ซึ่งประเด็นนี้น่าสนใจที่ท าให้ความชอบธรรมในการรับเงินจากการซื้อสิทธิขายเสียงในความคิด
ของประชาชนเป็นเรื่องที่ไม่มีความผิดมากนัก
แม้ในปัจจุบันการซื้อสิทธิขายเสียง ยังคงเป็นการใช้เงินเป็นหลักแต่จะมีรูปแบบและวิธีการในการซื้อ
สิทธิขายเสียงเปลี่ยนไปจากในอดีต รูปแบบของการซื้อสิทธิขายเสียงที่ใช้มากที่สุดในการเลือกตั้งที่ผ่านมายังคง
เป็นการซื้อสิทธิขายเสียงผ่านระบบหัวคะแนน ซึ่งหัวคะแนนส่วนใหญ่คือ ผู้น าท้องถิ่น ตัวแทนแม่บ้าน อดีตผู้น า
หรือบุคคลที่มีเครือข่ายในพื้นที่ อีกกลุ่มหนึ่งที่มีการแสดงบทบาทการเป็นหัวคะแนนคือ อาสาสมัครสาธารณสุข
(อสม.) รูปแบบของการซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้ง ที่ได้จากพื้นที่ยังคงเป็นรูปแบบหลักๆ คือ
1) ระบบการจ่ายเงินผ่านระบบหัวคะแนน หัวคะแนนนับเป็นกลไกส าหรับการชนะการเลือกตั้ง
หัวคะแนนมักเป็นกลุ่มผู้น าชุมชนทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ บทบาทของผู้น าชุมชนส าหรับการ
เมืองไทยมีความส าคัญมาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะนับตั้งแต่มีการปฏิรูประบบราชการมีการจัดโครงสร้างทางการ
ปกครองที่ส่งผลให้บทบาทของผู้น าชุมชนมีความส าคัญทั้งในมิติทางการเมืองการปกครองและมิติทาง
วัฒนธรรม โดยมีวิธีการคือ การให้ผู้น าหรือแกนน า ในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านซึ่งท าหน้าที่เป็นหัวคะแนนให้พรรค
การเมืองและนักการเมืองเป็นผู้จัดท าตัวเลขและรายชื่อของคนในหมู่บ้านโดยมีการก าหนดเป้าหมายของ
คะแนนไว้ รวบรวมและไปมอบให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยตรงหรือให้ผ่านหัวคะแนนอีกกลุ่มที่อยู่ในทีม
การเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้งเพื่อจัดสรรเงินตามจ านวนรายชื่อที่รวบรวมมา บางครั้งหัวคะแนนที่เข้ามาใน
ชุมชนจะมีมากกว่า 1 พรรค แต่การตัดสินใจในการให้หัวคะแนนเข้ามาในพื้นที่หรือให้มีการซื้อสิทธิขายเสียง
เกิดขึ้นในชุมชนได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยส าคัญคือ ผู้น าชุมชน
- รวบรวมนั่งรถไปคูหา วิธีการของหัวคะแนนยังมีการรวบรวมประชาชนในชุมชนพาขึ้นรถไปคูหา
เลือกตั้งการพาไปคูหาเลือกตั้งท าให้หัวคะแนนสามารถชี้น าและควบคุมคะแนนได้ นอกจากพานั่งรถไปคูหา
เลือกตั้งแล้ว ยังมีการรวบรวมประชาชนไปฟังปราศรัย ซึ่งการไปฟังปราศรัยจะมีการจ่ายค่าตอบแทนให้กับ
ประชาชนที่มาร่วม หากมองประเด็นนี้จะเห็นว่าการซื้อสิทธิขายเสียงไม่จ าเป็นต้องเกิดขึ้นในวันก่อนวันเลือกตั้ง
อีกต่อไป แต่สามารถท าล่วงหน้าวันเลือกตั้งได้ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป
- “ซื้อยกครัว” หรือการจ่ายเหมาครอบครัวเป็นการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งการซื้อในระดับปัจเจกบุคคล
หรือซื้อทั้งครอบครัว หัวคะแนนจะค านวนจ านวนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครอบครัวและให้เงินตามจ านวนหัว ซึ่ง
ง่ายต่อการควบคุมคะแนน ข้อมูลจากการสัมภาษณ์พบว่ามีค่าซื้อยกครัวสูงสุดในเขตเมืองคือ 3,000 บาท ใน
บางกรณีที่เป็นการจ่ายเหมาเงินบางส่วนถูกกักเก็บไว้ที่หัวคะแนนที่เรียกว่า “ค่าหัวคิว” หัวคะแนนจะเป็นคนที่
รู้ดีว่าบ้านไหนเข้าได้ บ้านไหนเข้าไม่ได้หรือซื้อไม่ได้ อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่าน
มารูปแบบของการซื้อยกครัวไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะโอกาสที่บ้านที่มีคนรุ่นใหม่ทั้งที่มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่มี
สิทธิเลือกตั้งจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลงคะแนนกับสมาชิกในครอบครัวหรือการโพสแจ้งบอกข้อมูลในสื่อ
ออนไลน์ที่อาจน ามาสู่หลักฐานการซื้อเสียงได้