Page 58 - kpi20902
P. 58
57
จะเห็นได้ว่า ปัจจัยทั ง 4 ส่วน จะเป็นเรื่องของจิตส้านึกความรับผิดชอบทั งต่อตนเอง คนรอบ
ข้างและชุมชน โดยความยั่งยืนจะเกิดขึ นได้เพราะอาศัยผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ นทุก ๆ ฝ่าย และร่วมกันแบ่งปัน
ความรู้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ด้วยจะได้ก่อให้เกิดความท้าทายในการท้างานทั งแก่
ตนเองและคนอื่น ๆ ต่อไป
4) กระบวนการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง
34
สถาบันเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน มหาวิทยาลัยนเรศวร (2552) ได้อธิบาย
องค์ประกอบที่ส้าคัญของกระบวนการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง โดยเน้นชุมชนเป็นตัวตั ง
ประกอบไปด้วย คือ
ภูมิปัญญาและความรู้ที่สืบสานและประยุกต์ให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงจาก
ภายนอก
องค์กรชุมชนและกลุ่มผู้น้าที่มีคุณธรรมและภูมิปัญญารวมถึงการจัดตั งกลุ่มและ
จัดระเบียบชุมชน
เวทีการเรียนรู้และกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง
และการบุกรุกจากภายนอก
อย่างไรก็ดี แนวคิดชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งเป็นแนวคิดหลักด้านงานพัฒนาที่ได้ถูกถ่ายทอด และ
น้าไปประยุกต์ใช้ในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการปฏิรูป (2554) ได้อธิบายชุมชนเข้มแข็งว่าเป็น
แนวคิดการพัฒนาที่มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านการพัฒนามิติต่างๆ ในระดับชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะการสนับสนุน
บทบาทของชุมชน/ภาคประชาสังคม ในการดาเนินการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการของชุมชน ในการจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น การให้บริการสาธารณะ
การวางแผนการพัฒนาท้องถิ่น โดยจะต้องยอมรับในความจ้าเพาะและความแตกต่างหลากหลายทางระบบ
นิเวศวัฒนธรรมของแต่ละชุมชนและกลุ่มชาติพันธุ์ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นประเด็นความท้าทายในการจัดการชุมชน
ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ที่ต้องปรับเปลี่ยนดุลยภาพของบทบาทราชการส่วนท้องถิ่นกับบทบาทของชุมชน องค์กร
ชุมชน ภาคประชาสังคม และประชาชนภายในท้องถิ่นให้สอดคล้องและสมดุลและการเปลี่ยนแปลงเชิง
โครงสร้างทางสังคมที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั นหากจะกล่าวถึง “ชุมชนเข้มแข็ง” จึงหมายถึง กลุ่มคนที่มา
อาศัยอยู่รวมกันด้ารงชีวิตเป็นไปในวิถีวัฒนธรรมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการบริโภค การแต่งกาย หรือการนับถือ
ศาสนา โดยชุมชนสามารถพึ่งพาตนเอง มีวิธีการบริหารจัดการกลุ่มของตนเองและพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
34 พีรธร บุณยรัตพันธุ์, การสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน, พิมพ์ครั งที่ 1 พิษณุโลก : สถาบันเพื่อสร้างความเข้มแข็ง
ให้ชุมชน มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2552, หน้า 40.