Page 197 - kpi20858
P. 197

154






                       เคลือบแคลงสงสัยในคุณความดีของท้าวสุรนารี ซึ่งพระองค์ได้ตรัสทูลถามว่า “เรื่องท่านผู้หญิงโม้นี้
                       ดูก็ประหลาด ดูในพงศาวดาร รัชกาลที่ ๓ ซึ่งถวายมา ไม่เห็นแสดงว่าแผลงอิทธิฤทธิ์อะไร เป็นแต่ว่า

                                                                                   278
                       คุมพวกผู้หญิงเป็นกองหลังเท่านั้น  ท าไมจึงยกย่องกันนักหนาไม่ทราบ”   ในการนี้สมเด็จพระเจ้า
                       บรมวงศืเธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ ทรงเขียนตอบกลับ ดังนี้

                                  เรื่องประวัติของท่านผู้หญิงโม้นั้น  หม่อมฉันได้เคยศึกษามาบ้าง  ความดีของแกมี

                            อย่างนี้ คือ เมื่อเจ้าอนุ ยกกองทัพลงมาจากเวียงจันทน์ หลอกลวงพวกหัวเมืองว่ามีท้องตรา
                            สั่งให้ยกลงมาช่วยรบฝรั่งที่กรุงเทพฯ  หัวเมืองรายทางก็หลงเชื่อไม่มีผู้ใดขัดขวาง  หรือแม้แต่

                            จะรีบบอกข่าวเข้ามายังกรุงเทพฯ  ด้วยรู้อยู่ทั่วกันว่าเจ้าอนุเป็นคนโปรดปรานมาแต่ก่อน

                            เวลานั้นพระยานครราชสีมากับพระยาปลัดซึ่งเป็นสามีท่านผู้หญิงโม้ ก็ไประงับผู้ร้ายอยู่ทาง
                            เมืองสุรินทร์ สังขะ เจ้าอนุยกลงมาถึงเมืองนครราชสีมาแล้วจึงเข้ายึดเมืองแสดงตนเป็นขบถ

                            แล้วแต่งให้เจ้าราชวงศ์ยกกองทัพหน้าลงมาเมืองสระบุรี  แต่เมื่อมารู้ว่ากรุงเทพฯ รู้ตัวทัน

                            เตรียมกองทัพจะยกขึ้นไป  เจ้าอนุเห็นว่าจะต่อสู้ที่เมืองนครราชศรีมาไม่ไหว  จึงคิดจะถอย
                            กลับไปตั้งต่อสู้ที่เมืองเวียงจันทน์  สั่งให้กวาดครอบครัวผู้คนเมืองนครราชศรีมาเอาไปเป็น

                            เชลย  ท่านผู้หญิงโม้ถูกกวาดไปด้วย  เพราะท่านผู้หญิงโม้เป็นเมียพระยาปลัด  จึงได้เป็น
                            หัวหน้าในพวกครัวกองที่ถูกกวาดไปด้วยกัน นัยว่าแกคิดถ่วงเวลาเดินทาง  เพื่อจะให้กองทัพ

                            กรุงเทพฯ ขึ้นไปแก้ไข จึงท าอุบายประจบประแจงพวกชาวเมืองเวียงจันทน์ที่ควบคุมให้ชอบ
                            บางทีหาผู้หญิงในพวกครัวให้เป็นเมียบ้าง  กระซิบสั่งให้พวกครัวแกล้งบอกป่วยให้ต้องรั้งรอ

                            บ้าง ในที่สุดมาถึงทุ่งสัมฤทธิ์ รู้ว่ากองทัพกรุงเทพฯใกล้จะถึง ก็บอกให้พวกครัวต่อสู้ ไล่ฆ่าฟัน

                            พวกชาวเวียงจันทน์ที่คุมไปแตกหนีมา  เจ้าอนุแต่งพลให้ยกไปปราบอีกกอง  ๑  ได้รบพุ่งกัน
                            (ตอนนี้ท่านผู้หญิงโม้คุมกองหลัง)  พวกครัวก็ตีพวกเวียงจันทน์แตกกลับมาอีก    พอกองทัพ

                            กรุงเทพฯ ไปถึง รอดมาได้จึงได้มีความชอบ

                                  เรื่องที่หม่อมฉันได้ทราบเค้าความเป็นดังทูลมานี้  ส่วนพระยาปลัดที่เป็นสามีท่าน

                            ผู้หญิงโม้นั้น  ตามเรื่องที่เล่ากันว่าเมื่อกลับมาถึงกลางทาง  ทราบว่าพวกเวียงจันทน์กวาด

                            ต้อนเอาครอบครัวไป  ก็อุบายเข้าหาพวก  เวียงจันทน์โดยดี  แล้วตามท่านผู้หญิงโม้ไปได้
                            ช่วยกันรบพวกเวียงจันทน์  ท านองเดียวกันกับพระยามหาอ ามาตย์  (ป้อม)  ต้นสกุล

                            “อมาตยกุล”  เวลานั้นเป็นพระสุริยศักดิ์ภักดี  เป็นข้าหลวงขึ้นไปราชการอยู่ที่เมืองนครพนม
                            พอทราบเหตุว่าเวียงจันทน์เป็นขบถก็รีบกลับ หมายจะมาแจ้งราชการในกรุงเทพฯ มาพบเจ้า

                            อนุอยู่ที่เมืองนครราชศรีมาก็เข้าหาโดยดี  แล้วจึงอุบายหลบลีกลงมากรุงเทพฯ  ถูกพระบาท
                            สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรังเกียจในข้อที่เข้าหาพวกขบถ   ทั้งพระยามหาอ ามาตย์




                           278  สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และสมเด็จกรมพระยาด ารงราชานุภาพ, สาส์นสมเด็จ เล่ม 4, 313.
   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202