Page 177 - kpi20858
P. 177
134
นั้น ก็โดยตัวเองยังไม่ดีจิง ฉะนั้นจะต้องพยายามให้ดีจิงๆ เพื่อลบล้างการดูหมิ่น จึงมานะ
ต่อไปโดยไม่ฟังเสียงอันไดอีก
236
โดยในปี พ.ศ. 2467 เหม ได้มีโอกาสวาดภาพประกอบต าราทางทหาร ให้กรมการทหารบก
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการเขียนภพาให้ส านักพิมพ์ดังที่เหมกล่าวถึงว่า
บังเอิญหนังสือพิมพ์เกิดเมตตารับจ้างกระผมไว้เขียน กระผมจึงหาเวลาว่างเล็กๆ น้อยๆ
เขียนส่งไป จึงนับว่ามีรายได้พอเยียวยาระหว่างเป็นทหาน... จนพอดีได้ปลดจากราชการ
ทหานเพราะครบก าหนด โรงงานท าแม่พิมพ์ก็เรียกกระผมประจ าโรงงาน กระผมเห็นทาง
237
ก้าวหน้าจะดีแน่นอน ก็เลยลาออกจากกะซวงกลาโหม เพื่อบุกบั่นวิชานี้ต่อไป
ในปี พ.ศ.2470 เหมร่วมกับเพื่อนชื่อ เชื้อ ช่างทอง เปิดส านักงาน บล็อกสถาน บริเวณศาลา
เฉลิมกรุง ในช่วงเวลานี้เหมเขียนภาพประกอบให้กับบล๊อกสถานด้วย ผลงานส าคัญอีกชิ้นหนึ่งคือ
การได้รับคัดเลือกให้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยเขียน
ภาพจิตรกรรมในผนังห้องที่ 69 ต่อมาในปี พ.ศ. 2475 เหมเขียนภาพประกอบให้กับส านักพิมพ์
238
เพลินจิตต์ ของเวช กระตุฤกษ์ นับเป็นก้าวแรกของการวาดภาพประกอบอย่างจริงจัง จากนั้นจึง
สร้างสรรค์ผลงานภาพประกอบ ทั้งภาพลายเส้น และภาพประกอบลงสีมากมาย นับเป็นศิลปินที่มี
บทบาทด้านจิตรกรรมภาพประกอบคนส าคัญของไทย ภายหลังจากการประสบความส าเร็จอย่าง
มากในสายอาชีพการเป็นนักเขียนภาพประกอบแล้วนั้น เหมเวชกรมีความต้องการเข้ารับราชการ
เพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเอง ดังที่ปรากฏในจดหมายขอรับราชการ ของเหม เวชกร ในวันที่ 12
กรกฎาคม พ.ศ.2486 ในขณะที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นผู้น า ความว่า
กระผมนายเหม เวชกร อายุ40ปี ด าเนินอาชีพทางช่างเขียนมา20 ปีกว่า และการ
เปนช่างเขียนของกระผมนี้ ไม่เคยสึกสามาจากส านักไดเลยเกิดขึ้นด้วยตนเองโดยแท้
กระผมได้ฝึกฝนตนเองมาแต่เล็กแต่น้อย โดยดูคนอื่นที่เขาเขียนเปนบ้าง ถามเขาบ้าง ด้วย
นิสัยรัก...
เมื่อมาไนสมัยสงครามนี้ กระผมตัดสินไจจะหาความดีทางราชการบ้าง เพราะทาง
ตลาดนั้นก็รุ่งโรจน์หยู่แล้ว ส่วนทางราชการนั้นกระผมยังห่างมาก ทั้งสมัยนี้รัถบาลก าลังส้าง
ชาติ กระผมกระหายจะได้รวมมือด้วยโดยไกล้ชิด จึงมาสมัคงานที่กะซวงสึกสาธิการ กรม
อาชีวะศึกสา... กระผมได้เปนลูกจ้างเงินเดือน 80 บาท ชั้นแรกกระผมลังเล เพราะอายเพื่อน
236 เรื่องเดียวกัน.
237 เรื่องเดียวกัน.
238 โอม รัชเวทย์, 100 ปี เหม เวชชกร, 307.