Page 324 - kpi20767
P. 324

299

                       ประเภทต าแหน่งทั่วไป มีค่าความถี่เท่ากับ 29 คน (f = 29) คิดเป็นร้อยละ 9.50 (9.50 %) ส่วนใหญ่มี

                       ระดับต าแหน่งปฏิบัติการ โดยมีค่าความถี่เท่ากับ 128 คน (f = 128) คิดเป็นร้อยละ 41.80 (41.80 %)

                       มีระดับต าแหน่งช านาญการ โดยมีค่าความถี่เท่ากับ 52 คน (f = 52) คิดเป็นร้อยละ 17.00 (17.00 %)
                       และมีระดับต าแหน่งช านาญการพิเศษ โดยมีค่าความถี่เท่ากับ 40 คน (f = 40) คิดเป็นร้อยละ 13.10

                       (13.10 %) ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ท างานมากกว่า 10 ปี โดยมีค่าความถี่เท่ากับ 193 คน (f = 193)

                       คิดเป็นร้อยละ 63.10 (63.10 %) มีประสบการณ์ท างานระหว่าง 1-5 ปี โดยมีค่าความถี่เท่ากับ 50 คน
                       (f = 51) คิดเป็นร้อยละ 16.710 (16.70 %) มีประสบการณ์ท างานระหว่าง 6-10 ปี โดยมีค่าความถี่

                       เท่ากับ 45 คน (f =  45) คิดเป็นร้อยละ 14.70 (14.70 %) และมีประสบการณ์ท างานน้อยกว่า 1 ปี

                       โดยมีค่าความถี่เท่ากับ 17 คน (f = 17) คิดเป็นร้อยละ 5.60 (5.60 %) ทั้งนี้ จากชุดข้อมูลดังกล่าว
                       พบว่า มีค่าสัมประสิทธิ์ความเบ้ (Skewness Coefficient) และค่าสัมประสิทธิ์ความโด่ง (Kurtosis

                       Coefficient)อยู่ในช่วงระหว่าง  ±2 ซึ่งแสดงว่าข้อมูลชุดนี้มีการแจกแจงที่เป็นโค้งปกติ


                               2. ผลการวิเคราะห์ระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในด้าน

                       การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การภาครัฐ

                                 จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ
                       ในด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การภาครัฐ

                       สามารถสรุปได้ดังนี้

                                 2.1 ผลการวิเคราะห์ระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติใน
                       ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การภาครัฐซึ่ง

                       เป็นส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่าที่มีค่าคะแนนคุณธรรมและความโปร่งใสในการด าเนินงานใน

                       ปี 2560 ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ พบว่า ระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติภายใต้
                       หลักธรรมาภิบาลโดยรวม อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.57 (  = 3.57, S.D. = .63,
                                                                                     X
                       ระดับปัจจัย = มาก)  เมื่อจ าแนกเป็นรายปัจจัย พบว่า ระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตาม

                       ยุทธศาสตร์ชาติภายใต้หลักธรรมาภิบาลค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากจ านวน 11 ปัจจัย และมีค่าเฉลี่ยใน
                       ระดับปานกลางจ านวน 1 ปัจจัย โดยเรียงล าดับปัจจัยมีค่าเฉลี่ยจากมากที่สุด 3 ล าดับแรกได้ดังนี้

                       ปัจจัยด้านผู้น า มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.79 ( = 3.79, S.D. = .80, ระดับปัจจัย
                                                                           X
                       = มาก) รองลงมาได้แก่ ปัจจัยด้านโครงสร้างองค์การ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.55 ( = 3.65, S.D. =
                                                                                          X
                       .74, ระดับปัจจัย = มาก) และปัจจัยด้านค่านิยม/วัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.65 ( = 3.65, S.D.
                                                                                            X
                       = .72, ระดับปัจจัย = มาก)

                                 2.2 ผลการวิเคราะห์ระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติใน
                       ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การภาครัฐซึ่ง

                       เป็นส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่าที่มีค่าคะแนนคุณธรรมและความโปร่งใสในการด าเนินงานใน
   319   320   321   322   323   324   325   326   327   328   329