Page 219 - kpi20764
P. 219
218
เหตุผลอย่างชัดแจ้ง และมีข้อบ่งชี้ในความเชื่อและเหตุผลมากกว่ากรณี
ที่เป็นการดำาเนินการของหน่วยงานที่มิใช่หน่วยงานของรัฐ ซึ่งองค์ประกอบ
ของความเชื่อเป็นเพียงความสงสัยอย่างมีเหตุผลเท่านั้น เพราะหาก
ยินยอมให้ความกังวลสงสัยต่อการไม่ดำาเนินการหรือไม่ปฏิบติหน้าที่
ตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐกลายเป็นความเชื่อที่รับฟังได้ ก็จะส่งผล
เป็นการล้มหลักการของกฎหมายในการบริหารราชการหรือหน่วยงาน
ของรัฐซึ่งมีกฎหมายกำากับดูแลและมีระเบียบวิธีปฏิบติหน้าที่ (Civil Service
Code) ไว้โดยเฉพาะ ฉะนั้น การเปิดเผยข้อมูลบนพื้นฐานของความกังวล
สงสัยต่อการไม่ดำาเนินการหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในหน่วยงาน
ของรัฐก็อาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อกฎหมายได้
แสดงให้เห็นถึงการยืนยันในหลักการให้ความคุ้มครองแก่การเปิดเผยข้อมูล
ครอบคลุมไปถึงพนักงานและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐ ทั้งนี้ การเปิดเผย
ข้อมูลจำาเป็นต้องกระทำาโดยมีความถูกต้องสมบูรณ์ เป็นกลาง ไม่เข้าข้าง
ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และกระทำาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ความหมายของคำาว่า “สุจริต” ที่ปรากฏอยู่ในกฎหมายทั้งมาตรา
43E ถึงมาตรา 43H เป็น องค์ประกอบสำาคัญที่กฎหมายกำาหนดให้
การเปิดเผยข้อมูลต้องมีอยู่เสมอ ถึงแม้การเปิดเผยข้อมูลจะเกิดขึ้นจาก
ความประมาทเลินเล่อปราศจากเจตนา หรือขาดความเอาใจใส่เท่าที่ควร
ก็ยังคงได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย แต่ถ้าการเปิดเผยข้อมูลที่แสดง
ออกมาทำาให้เกิดผลที่ตามมาในอนาคต และมิได้เป็นไปตามเจตนาที่ประสงค์
ของกฎหมาย หรือมิได้เป็นที่ต้องการให้เกิดขึ้น เช่น การเปิดเผยข้อมูล
โดยใช้อำานาจหน้าที่บังคับข่มขู่เพื่อเรียกขอรับผลประโยชน์ทั้งทางตรง
และทางอ้อม หรือผู้เปิดเผยข้อมูลทราบถึงความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้น แต่มี
เป้าหมายเปิดเผยข้อมูลเพื่อหวังผลประโยชน์ที่จะเกิดขื้นแก่ตนในอนาคต
การเปิดเผยข้อมูลก็จะกลายเป็นการกระทำาที่ไม่สุจริต ดังคำาพิพากษาในคดี
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 218 13/2/2562 16:41:48