Page 216 - kpi20764
P. 216
ปัญห�ก�รปรับปรุงกฎหม�ยที่มีผลใช้บังคับอยู่ต�มแนวท�งปฏิรูปประเทศไทยต�มรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้�นกฎหม�ยและกระบวนก�รยุติธรรม: ก�รเสริมประสิทธิภ�พ
ด้�นก�รคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับก�รทุจริต ก�รกระทำ�ที่ไม่ชอบด้วยกฎหม�ย และก�รใช้อำ�น�จไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์ส�ธ�รณะ 215
ดังตัวอย่างในคดี Aspinall V. MSI Mech Forge โดยศาลอุทธรณ์
229
คดีแรงงานได้วินิจฉัยไว้ว่า “การเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
และสุขอนามัยของประชาชนนั้นมีความสำาคัญ ย่อมได้รับความคุ้มครอง
ตามกฎหมาย แต่ผลที่ตามมาจากการแสวงหาข้อเท็จจริงแห่งคดีอันแลเห็น
ได้ว่าจะเป็นการฝ่าฝืนละเมิดต่อความลับทางการค้าในการผลิตสินค้าของ
กิจการอย่างร้ายแรง แต่ก็มิได้เป็นเหตุให้โจทก์ต้องออกจากงานโดยชอบ”
แต่ขอบเขตของการเปิดเผยข้อมูลทุกประเภททั้งข้อมูลที่เป็น
ความลับและข้อมูลที่มิได้เป็นความลับถูกจำากัดห้าม ต้องมิใช่การเปิดเผย
ข้อมูลที่เป็นการกระทำาความผิดตามกฎหมายอาญา (มาตรา 43B(3)) เช่น
การเปิดเผยข้อมูลที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายการรักษาความลับ
ของพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ (Official Secrets Act 1923) และการได้รับ
ข้อมูลมาเปิดเผยต้องมิได้เกิดจากการเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย (มาตรา
43B(4)) จึงจะทำาให้การเปิดเผยข้อมูลไม่ขัดต่อเงื่อนไขตามที่กฎหมาย
PIDA กำาหนด ฉะนั้นสามารถสรุปได้ว่าการเปิดเผยข้อมูล หากมิได้
เป็นการกระทำาอันฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายอื่นที่มีความผิด
ทางอาญา และมิใช่ข้อมูลที่ได้มาจากการเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย
ก็ย่อมเข้าเงื่อนไขที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย PIDA ในทุกกรณี
ประเด็นสำาคัญที่ต้องพิจารณาของกฎหมายมาตรานี้ คือ ความเชื่อ
หรือระดับความเชื่อที่เหมาะสมเพียงพอของผู้ที่จะเปิดเผยข้อมูลควรเป็น
อย่างไร เนื่องจากความจำาเป็นที่กฎหมายต้องการให้ลูกจ้างต้องมีความเชื่อ
อย่างมีเหตุผลเหมาะสมและมากเพียงพอก่อนที่จะทำาการเปิดเผยข้อมูล
โดยความเชื่ออย่างมีเหตุผลได้หมายความรวมถึงความเชื่อที่ไม่จำาเป็นต้อง
เป็นความเชื่อที่ถูกต้อง แต่ลูกจ้างต้องต้องมีความเชื่อมั่นและมีเหตุผล
229 Aspinall v. MSI Mech Forge Ltd [2002] UKEAT 891_01_2507 (25 July 2002).
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 215 13/2/2562 16:41:48