Page 211 - kpi20764
P. 211
210
เห็นว่ากฎหมาย PIDA ได้ทำางานและมีความสำาคัญอย่างไร โดย 2 ใน 3
ของคดีที่ได้ถูกตัดสินไปแล้วมีหลักฐานยืนยันได้ว่ากฎหมาย PIDA
ได้ทำางานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขั้นให้จบลงไปได้
ทั้งแสดงให้ผู้แจ้งเบาะแสหรือผู้เปิดเผยข้อมูลได้รับทราบว่าผู้แจ้งเบาะแส
หรือผู้เปิดเผยข้อมูลจะได้รับความคุ้มครองสิทธิจากกฎหมายโดยนายจ้าง
ต้องให้ความสำาคัญเอาใจใส่ต่อการเปิดเผยข้อมูลหรือการแจ้งเบาะแส
ในทุกกรณี ซึ่งเป็นการชักนำาให้การกระทำาความผิดภายในองค์กรหรือ
หน่วยงานมีแนวโน้มลดน้อยลงไป 225
กฎหมาย PIDA ได้นิยามความหมายของคำาว่า “การเปิดเผยข้อมูล
ที่ได้รับความคุ้มครอง” (Protected Disclosure) ไว้ว่าเป็น “การเปิดเผย
ข้อมูลที่มีองค์ประกอบถูกต้องครบถ้วน กระทำาโดยพนักงานลูกจ้างซึ่ง
สอดคล้องต่อบทบัญญัติของกฎหมายที่กำาหนดรูปแบบการเปิดเผย
ข้อมูลไว้” โดยมีการอ้างอิงถึงนิยามของคำาว่า “การเปิดเผยข้อมูลที่มี
องค์ประกอบถูกต้องครบถ้วน” (Qualifying Disclosure) ซึ่งกฎหมาย
ได้ให้คำาจำากัดความไว้ว่าเป็นการเปิดเผยข้อมูลที่กระทำาโดยลูกจ้าง
ซึ่งเชื่ออย่างมีเหตุผลเหมาะสมเพียงพอ และสามารถ แสดงให้ปรากฏว่า
เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้ได้เกิดขื้น และสามารถยืนยันว่า
มีการก่ออาชญากรรมผิดกฎหมายเกิดขึ้น เป็นต้นว่า สามารถพบบุคคล
กระทำาความผิด หรือกำาลังกระทำาความผิด หรือกำาลังจะกระทำาการ
ฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย หรือมีการขัดขวาง
กระบวนการยุติธรรมเกิดขื้นหรือกำาลังจะเกิดขึ้น หรือมีการกระทำาหรือ
225 ธรรมสาร ทิพรังศรี. 2555. มาตรการทางกฎหมายการให้ความคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส
ในบริษัทจดทะเบียน. วิทยานิพนธ์. หลักสูตรปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต. คณะ
นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. น. 169-170.
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 210 13/2/2562 16:41:47