Page 12 - kpi20764
P. 12
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 11
ต้นทุนและความเสี่ยงในชีวิต ร่างกาย อนามัย ชื่อเสียงและทรัพย์สิน
ที่ต้องแบกรับทั้งจากอันตรายต่อตนเอง หรือ ครอบครัวและคนใกล้ชิด
นอกจากนี้ มาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลในปัจจุบันไม่ถูกจำากัด
เฉพาะการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำางานของหน่วยงานภาครัฐ
เท่านั้น แต่ถูกนำาไปใช้เพื่อส่งเสริมการกำากับดูแลองค์กรในตลาดทุนและ
ตลาดหลักทรัพย์ด้วย ทั้งนี้เพราะภาคเอกชนที่ดำาเนินการธุรกิจด้าน
ตลาดเงินและตลาดทุนนั้นเกี่ยวข้องกับการระดมทุนขนาดใหญ่และ
อาจจะแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนำามาซึ่งความเสียหาย
ในระดับมหภาคได้ ดังนั้นจึงต้องมีการกำาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2551
เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ให้ข้อมูลในการเปิดเผยข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
และเพื่อให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
กับหลักทรัพย์อย่างถูกต้องสมบูรณ์ และครบถ้วนเพียงพอ อย่างไรก็ดี
พระราชบัญญัติดังกล่าวไม่เคยถูกนำามาใช้ ซึ่งอาจจะประเมินได้ว่า
มาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลของไทยในภาคเอกชนไม่มีประสิทธิภาพ
พอที่จะนำามาใช้บังคับได้ในทางปฏิบัติเนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำาหนด
กลไกหรือมาตรการคุ้มครองและเยียวยาผู้ให้ข้อมูลเอาไว้อย่างชัดเจน
เมื่อเทียบกับกฎหมายของต่างประเทศ เช่น กฎหมายตลาดหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัยพ์ของสหรัฐอเมริกา (Securities Exchange Act of
1934 (SEA)) ซึ่งจำาเป็นจะต้องเสนอแนะแนวทางการบังคับใช้ การตีความ
การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้เหมาะสมต่อไป
มาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลมีความสำาคัญในแง่ของการให้
ความเชื่อมั่นแก่ผู้ให้ข้อมูล ซึ่งจะประสบกับความโดดเดี่ยว เนื่องจาก
ทั้งถูกกีดกันและแบ่งแยกออกจากคนในองค์กรที่ถูกให้ข้อมูล หรือแม้แต่
อาจจะถูกข่มขู่คุกคามเพียงเล็กน้อยจนไปถึงการถูกฆาตกรรม ซึ่งถ้าไม่มี
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 11 13/2/2562 16:41:37