Page 8 - kpi20764
P. 8
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 7
ผู้กระทำาความผิด ผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องนั้นๆ ด้วย ทำาให้ผู้ให้ข้อมูลสุ่มเสี่ยง
ต่อการถูกแก้แค้น โต้ตอบและข่มขู่คุกคามจากกลุ่มบุคคลไม่ว่าจะเป็น
เอกชนทั่วไป เจ้าหน้าที่รัฐ อาชญากรหรือองค์กรอาชญากรรม ในรูปแบบ
ที่แตกต่างกันออกไปโดยก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ
และทรัพย์สินของผู้ให้ข้อมูล หรือบุคคลในครอบครัวหรือมีความสัมพันธ์
ใกล้ชิดกับผู้ให้ข้อมูล หรือการลดขั้นเงินเดือน การไม่พิจารณาความดี
1
ความชอบให้ตามควร จนถึงการให้ออกจากงาน เป็นต้น ที่ผ่านมากลไก
การตรวจสอบของรัฐหรือการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน
และภาคประชาสังคมในการต่อต้านการทุจริตนั้นไม่ประสบความสำาเร็จ
เท่าที่ควร เนื่องจากภาครัฐยังมีความล่าช้าในการปฏิบัติงานอยู่ อีกทั้งยัง
มีปัญหาที่ไม่สามารถคุ้มครองพยานกรณีที่มีประชาชนให้ข้อมูลการทุจริต
รวมทั้งขาดแนวทางที่สร้างแรงจูงใจที่จะทำาให้พยานให้ความร่วมมือได้
เนื่องจากพยานผู้ให้ข้อมูลต่างกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
UN Convention against Corruption มาตราที่ 33 ระบุไว้ว่า
ประเทศที่ลงสัตยาบันต้องดำาเนินการตามโดยให้มีระบบกฎหมายของ
แต่ละประเทศที่เป็นมาตรการที่เหมาะสมในการให้ความคุ้มครองต่อผู้ที่
ให้ข้อมูลหรือเบาะแสหรือรายงานความผิด ทั้งนี้ เพื่อผู้ให้ข้อมูลพ้นจาก
การกระทำาอันไม่ชอบอันเนื่องมาจากการรายงานของผู้ให้ข้อมูล หลักเหตุผล
ของมาตรการนี้ คือ ความต้องการให้ประชาชนช่วยกันรายงานการทำาผิด
กฎหมายในรูปแบบต่างๆ โดยไม่ให้ผู้รายงานหรือผู้ให้ข้อมูลต้องตกเป็น
เหยื่อของการแก้แค้นจากการให้ข้อมูล ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากรู้ว่ามีการทำาผิด
1 จากการคุ้มครองพยานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พุทธศักราช
2546 เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ
ที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร ค.ศ. 2000 ข้อ 24 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต) (น.3),
โดย ศิระ รัตตานุกูล, 2549, กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 7 13/2/2562 16:41:37