Page 10 - kpi20764
P. 10
ปัญห�ก�รปรับปรุงกฎหม�ยที่มีผลใช้บังคับอยู่ต�มแนวท�งปฏิรูปประเทศไทยต�มรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้�นกฎหม�ยและกระบวนก�รยุติธรรม: ก�รเสริมประสิทธิภ�พ
ด้�นก�รคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับก�รทุจริต ก�รกระทำ�ที่ไม่ชอบด้วยกฎหม�ย และก�รใช้อำ�น�จไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์ส�ธ�รณะ 9
กฎหมายนั้นๆ ได้กำาหนดโทษทางอาญาหากบุคคลนั้นไม่ปฏิบัติตาม
คำาสั่งของเจ้าหน้าที่ โดยกฎหมายดังกล่าวมิได้มีกฎเกณฑ์ในการให้
ความคุ้มครองผู้ถูกเรียกมาให้ข้อมูลแต่อย่างใด และแม้แต่ พ.ร.บ.
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พุทธศักราช 2542 ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลไว้ ดังนั้น
หน่วยงานที่จะรับผิดชอบต่อการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ
จึงยังไม่มี
ในทางปฏิบัตินั้นพบว่ามาตรการให้ความคุ้มครองแก่ผู้แจ้งข้อมูล
ทุจริตและกระทบต่อประโยชน์สาธารณะขององค์กรกำากับดูแล เช่น
สำานักงาน ป.ป.ช. สำานักงาน ป.ป.ท. สำานักงาน ป.ป.ง. หรือคณะกรรมการ
ข้าราชการพลเรือน ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล
และจำาเป็นต้องร้องขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่คุ้มครองพยานอันได้แก่
สำานักงานคุ้มครองพยาน (กระทรวงยุติธรรม) กรมคุ้มครองสิทธิและ
เสรีภาพ (กระทรวงยุติธรรม) หรือสำานักงานตำารวจแห่งชาติ (สตช.) ให้เป็น
ผู้คุ้มครองผู้แจ้งข้อมูล ทั้งนี้ คคีทุจริตถือเป็นคดีอาญาที่ต้องได้รับมาตรการ
คุ้มครองพิเศษตาม พ.ร.บ. คุ้มครองพยานในคดีอาญา พุทธศักราช 2546
อย่างไรก็ดี พ.ร.บ. คุ้มครองพยานในคดีอาญาก็ยังคงมีช่องว่างสำาหรับ
การคุ้มครองผู้แจ้งข้อมูลการทุจริต ทั้งนี้ เพราะตาม พ.ร.บ.นี้ นิยามของ
คำาว่า “พยาน” คือ “พยานบุคคลซึ่งจะมาให้ หรือได้ให้ข้อเท็จจริงต่อ
พนักงานผู้มีอำานาจสืบสวนคดีอาญา หรือศาลในการดำาเนินคดีอาญา
รวมทั้งผู้ชำานาญการพิเศษ แต่มิให้หมายความรวมถึงจำาเลยที่อ้างตนเอง
เป็นพยาน” จากนิยามนี้ จะสังเกตได้ว่าผู้ให้ข้อมูลซึ่งอาจมีบทบาท
เป็นเพียงแค่ผู้แจ้งข้อมูลซึ่งประสงค์จะไม่เปิดเผยตัวตนและยอมเป็นพยาน
ก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายนี้
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 9 13/2/2562 16:41:37