Page 61 - kpi20761
P. 61

60


                 ซึ่งท�าให้ลูกจ้างมีสิทธิในค่าชดเชย อีกทั้งเปิดโอกาสให้คณะกรรมการ
                 ค่าจ้างก�าหนดอัตราค่าจ้างที่แตกต่าง (แต่ไม่ต�่าไปกว่าค่าจ้างขั้นต�่า) ส�าหรับ

                 แรงงานในบางสาขาวิชาชีพหรือบางกลุ่มประเภทกิจการได้ โดยพิจารณา
                 ถึงทักษะฝีมือ ความรู้ความสามารถ อันแสดงถึงเจตนารมณ์ที่รัฐต้องการ
                 มุ่งเน้นการพัฒนาแรงงานฝีมือและการให้กฎหมายแรงงานสอดรับกับ

                 สถานการณ์ด้านประชากรผู้สูงอายุนั่นเอง



                         สรุป ในภาพรวมของพัฒนาการกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

                 สามารถสรุปได้ถึงความพยายามที่รัฐบาลไทยต้องการเน้นมาตรการ
                 การเพิ่มคุ้มครองให้กับลูกจ้างผู้ใช้แรงงานตลอดจนการพัฒนาทักษะ

                 ฝีมือแรงงานเป็นส�าคัญ



                         (๒) กฎหมำยเงินทดแทน


                         ควำมเป็นมำ นับตั้งแต่พระราชบัญญัติแรงงาน ๒๔๙๙ ตลอดจน
                 ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานอาศัยอ�านาจตาม

                 ความในประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๙ และฉบับที่ ๑๐๓ กฎหมาย
                 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเงินทดแทนนั้นถูกจัดให้อยู่ควบคู่กับกฎหมายที่มีเนื้อหา
                 เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานเสมอมา จนกระทั่งปี ๒๕๓๗ ได้มีการตัดทอน

                 ข้อความที่มีเนื้อหาในการให้ความคุ้มครองลูกจ้างที่ประสบอันตราย
                 บาดเจ็บ ตายหรือสูญหายอันเนื่องจากการท�างาน ซึ่งส่งผลให้ลูกจ้าง

                 คนดังกล่าวหรือผู้มีสิทธิตามกฎหมายสามารถได้รับประโยชน์ทดแทนเยียวยา
                 ความสูญเสียที่เรียกกว่า “เงินทดแทน” ออกมาบัญญัติไว้เป็นกฎหมาย
                 เฉพาะต่างหากในชื่อว่า “พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. ๒๕๓๗” ๘๒




                 ๘๒  รก. เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๒๘ ก ลว ๒๘ มิถุนายน ๒๕๓๗





         inside_ThLabourLaw_c1-2.indd   60                                     13/2/2562   16:24:09
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66