Page 60 - kpi20761
P. 60
การพัฒนาและปรับปรุงบทบัญญัติกฎหมายแรงงานไทยให้สอดคล้องกับหลักการสากลและแนวทางปฏิรูปประเทศ 59
การแก้ไขปรับปรุงครั้งแรกในปี ๒๕๕๑ เป็นการเพิ่มเติมความ
คุ้มครองแก่ลูกจ้างในด้านต่างๆ ดังมีสาระส�าคัญ เช่น การก�าหนดหน้าที่
ความรับผิดชอบให้แก่ผู้ใช้แรงงานที่จ้างงานแบบเหมาค่าแรงหรือที่ในทาง
ปฏิบัติเรียกว่านายจ้าง outsourcing การก�าหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ
การเรียกหลักประกันการท�างาน การให้อ�านาจศาลแรงงานในการปรับลด
ความไม่เป็นธรรมในข้อสัญญาจ้างแรงงาน เงื่อนไขการท�างานและ
สภาพการจ้าง การห้ามคุกคามทางเพศต่อลูกจ้างทั้งชายและหญิง
ซึ่งแต่เดิมก�าหนดไว้เฉพาะแต่ลูกจ้างหญิงเท่านั้น และการก�าหนดอัตรา
เงินที่ต้องจ่ายทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนเมื่อนายจ้างต้องหยุดกิจการ
โดยไม่ใช่เหตุสุดวิสัยเป็นต้น
การแก้ไขปรับปรุงครั้งที่สองเกิดขึ้นในปีเดียวกัน แต่มีระยะเวลา
ห่างจากวันประกาศใช้พระราชบัญญัติเพียง ๓ เดือน (พฤษภาคม ๒๕๕๑)
โดยการเพิ่มอ�านาจหน้าที่ให้กับคณะกรรมการค่าจ้าง เพื่อก�าหนดอัตรา
ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือที่มีการก�าหนดเป็นอีกประเภทต่างหากจากอัตรา
ค่าจ้างขั้นต�่าที่มีอยู่แต่เดิม กับทั้งหน้าที่ในการจัดท�าแผนพัฒนาระบบ
ค่าจ้างและรายได้ของประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลแผนพัฒนา
เกี่ยวกับอัตราค่าจ้างทั้ง ๒ ประเภท อันท�าให้เห็นได้ว่ารัฐบาลเริ่มให้ความ
ส�าคัญต่อแรงงานฝีมือและความมุ่งมั่นในการพัฒนาฝีมือแรงงานมากขึ้น
การแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ ๓ เมื่อปี ๒๕๕๓ โดยได้ยกเลิกหมวด ๘
ว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการท�างาน
เพื่อน�าบทบัญญัติดังกล่าวไปบัญญัติไว้เป็นกฎหมายเฉพาะอีกหมวดหนึ่ง
อันสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความส�าคัญของรัฐต่อความปลอดภัยของผู้ใช้
แรงงานวิธีหนึ่ง
การแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ ๔ เมื่อปี ๒๕๖๐ โดยมีการก�าหนดอายุ
เกษียณสูงสุดไว้ที่ ๖๐ ปี อันท�าให้ต้องถือว่าสัญญาจ้างแรงงานสิ้นสุดลง
inside_ThLabourLaw_c1-2.indd 59 13/2/2562 16:24:09