Page 72 - kpi20680
P. 72
48
การบัญญัติด้านการศึกษาไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นความก้าวหน้า และ
ท าให้เป็นหลักประกันว่าการด าเนินเพื่อพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศไทยได้รับความเอาใจใส่
จากภาครัฐแน่นอน และการบัญญัติให้เป็นหน้าที่รัฐในการที่ต้องเข้ามาดูแลการศึกษาให้มีคุณภาพ
ทั้งระบบโดย เปิดโอกาสให้หน่วยงานท้องถิ่น และภาคเอกชนเข้ามาร่วมจัดการศึกษาจะท าให้การ
จัดการศึกษาของประเทศมีความครอบคลุมสาขาวิชาที่ขาดแคลน ประหยัดงบประมาณ และมี
ประสิทธิภาพมากกว่ารัฐบาลฝ่ายเดียวเป็นผู้ด าเนินการและที่ส าคัญเมื่อมีการบัญญัติไว้ใน
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว การตราพระราชบัญญัติ เพื่อก าหนดวิธีการปฏิบัติ การ
ควบคุมตรวจสอบให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ด าเนินตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุตาม
วัตถุประสงค์ของกฎหมายก็เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลควรด าเนิน การกลไกในระหว่างการจัดการศึกษา
ภาครัฐกับประชาชน ควรมีการถ่วงดุลอ านาจทางการศึกษา โดยการเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ มี
สิทธิ มีอ านาจเป็นผู้ออกแบบและผู้จัดการการศึกษาคู่ขนานไปกับรัฐ ควรก าหนดให้องค์กรที่จะเข้า
มาช่วยจัดการศึกษาที่สร้างวัฒนธรรมใหม่ให้กับคนไทย ประกอบไปด้วย 1) องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น 2) ครอบครัว 3) ประชาสังคม 4) สถาบันศาสนา และ 5) สถานประกอบการเอกชนด้าน
การศึกษา การให้สิทธิกับภาคส่วนเหล่านี้เพราะเขาจะสามารถสร้างการศึกษาเชิงวิพากษ์ การศึกษา
เชิงมนุษย์ การให้สิทธิอันนี้เพราะเราค านึงว่า คุณภาพการศึกษาเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะท าได้โดยรัฐ
ตามล าพัง เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่เป็นทั่วโลก
การปฏิรูปการศึกษามุ่งหวังให้เกิดการกระจายอ านาจจากส่วนกลางไปยังท้องถิ่น ส่งผลให้
กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานหลักที่มีภารกิจในด้านการศึกษาขอประเทศต้องปรับตัวเพื่อกระจาย
อ านาจการบริหาร ตั้งแต่น ามาสู่การตราพระราชบัญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 งบประมาณและ
ทิศทางในการจัดการศึกษายังถูกก าหนดจากส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา และองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นยังคงด าเนินงนในรูปแบบเป็นผู้รับและด าเนินงานเพื่อนโยบาย คุณภาพการจัด
การศึกษาในแต่ละพื้นที่จึงไม่ได้มาตรฐาน เด็กนักเรียนได้รับโอกาสไม่เท่าเทียมกันหรือด้อยโอกาส
ในการศึกษา ในระดับปัจเจก คือตัวเด็กเองยังไม่เกิดทักษะการรู้คิด มีทักษะชีวิตและจิตส านึกที่ดีทั้ง
ตนเองและสังคมแวดล้อม ส่งผลให้เด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือพฤติกรรมไม่พึง
ประสงค์ตั้งแต่วัยเยาว์ ระดับสังคมแวดล้อม คือ ครอบครัวไทยเกิดสภาวะล้มเหลวทางความคิดและ
ทัศนคติในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ครอบครัวเน้นเรื่องการท ามาหากินเพื่อเลี้ยงชีวิตจนลืม
บทบาทความเป็นพ่อแม่ ครอบครัวที่ครอบง าความคิดเด็ก การศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนถูก
พัฒนาให้เป็นแบบส าเร็จรูปเหมือนกันทั้งประเทศ และระบบโครงสร้างของชุมชน ไม่มีกลไกดูแล
คุ้มครองเด็กที่เป็นการท างานเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบเป็นวงจร เช่นการพัฒนาแก่นน าเยาวชน
เครือข่ายยังขาดทิศทางการจัดการอย่างมีส่วนร่วม