Page 34 - kpi20680
P. 34

12







                       ความหมายของถ้อยคําที่เขียนไว้ในกฎหมายนั้นได้ในเรื่องของเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้สามารถ
                       อธิบายได้จากทฤษฎี 2 ทฤษฎี  (หยุด แสงอุทัยและสมยศ เชื้อไทย, 2552) คือ

                              1)  ทฤษฎีอําเภอจิต จะเน้นค้นพบเจตนารมณ์ของกฎหมายจากเจตนารมณ์ของผู้บัญญัติ

                       กฎหมายนั้นเอง ในทางประวัติศาสตร์ เช่น พิจารณาจากต้นร่างกฎหมายนั้น รายงานการประชุม
                       พิจารณากฎหมาย เป็นต้น

                              2) ทฤษฎีอําเภอการณ์ ไม่ต้องค้นหาเจตนารมณ์ของผู้บัญญัติกฎหมายในทางประวัติศาสตร์

                       แต่ค้นหาจากเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นเองว่ากฎหมายนั้นมีความมุ่งหมายอย่างไร
                              จากแนวคิดและหลักการดังกล่าวผู้ศึกษาได้กําหนดวิธีการหยั่งทราบเจตนารมณ์ของ

                       กฎหมายโดยพิจารณ์จากองค์ประกอบของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าด้วยหน้าที่ของรัฐตาม

                       รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ดังนี้
                              (1) คําปรารภในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กล่าวว่า “สมเด็จพระ

                       เจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้

                       ประกาศว่า นายกรัฐมนตรีได้นําความกราบบังคมทูลว่า นับแต่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา

                       ประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมพระราชทาน
                       รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 เป็นต้นมา การปกครองของประเทศไทยได้

                       ดํารงเจตนารมณ์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขต่อเนื่องมา

                       โดยตลอด แม้ได้มีการยกเลิก แก้ไขเพิ่มเติม และประกาศใช้รัฐธรรมนูญเพื่อจัดระเบียบการปกครอง

                       ให้เหมาะสมหลายครั้ง แต่การปกครองก็มิได้มีเสถียรภาพหรือราบรื่นเรียบร้อยเพราะยังคงประสบ
                       ปัญหาและข้อขัดแย้งต่าง ๆ บางครั้งเป็นวิกฤติทางรัฐธรรมนูญที่หาทางออกไม่ได้เหตุส่วนหนึ่งเกิด

                       จากการที่มีผู้ไม่นําพาหรือไม่นับถือยําเกรงกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉลหรือ

                       บิดเบือนอํานาจ หรือขาดความตระหนักสํานึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน จนทําให้
                       การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล ซึ่งจําต้องป้องกันและแก้ไขด้วยการปฏิรูปการศึกษาและการบังคับ

                       ใช้กฎหมาย และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบคุณธรรมและจริยธรรม แต่เหตุอีกส่วนหนึ่งเกิด

                       จากกฎเกณฑ์การเมืองการปกครองที่ยังไม่เหมาะสมแก่สภาวการณ์บ้านเมืองและกาลสมัย ให้
                       ความสําคัญแก่รูปแบบและวิธีการยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่อาจนํา

                       กฎเกณฑ์ที่มีอยู่มาใช้แก่พฤติกรรมของบุคคลและสถานการณ์ในยามวิกฤติที่มีรูปแบบและวิธีการ

                       แตกต่างไปจากเดิมให้
                       ได้ผล

                              รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ

                       ที่ 1) พุทธศักราช 2558 จึงได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อ
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39